ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
MJU Corporate Communication Center

ข่าวประชาสัมพันธ์และกิจกรรม

เฮลั่น !! ม.แม่โจ้ คว้าแชมป์ งานกีฬาประเพณี4จอบแห่งชาติ ครั้งที่ 39 ครองถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำทีมนักกีฬาทักษะเกษตร จาก 3 คณะได้แก่ คณะผลิตกรรมการเกษตร คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี และ คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทักษะเกษตร และกีฬาสากล ในงานประเพณี 4 จอบแห่งชาติ ครั้งที่ 39 “เกษตรแดนศิลป์ ถิ่นเมืองพริบพรี” ซึ่งมีสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีการเรียนการสอนทางด้านการเกษตรจากทั่วประเทศ เข้าร่วมชิงชัย 12 สถาบัน ระหว่างวันที่ 18 - 21 พฤศจิกายน 2567 ณ มหาวิทยาลัยศิลปกร วิทยาเขต สารสนเทศเพชรบุรี ผลการแข่งขัน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับรางวัลชนะเลิศ ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โดย สามารถกวาดมาได้ 15 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญเงินกีฬาสาธิต รวม 20 เหรียญ จาก 21 ทักษะ ดังนี้1. การจัดสวนถาด = ทอง 2. การเชตแมลง = ทอง 3. การผลิตแผ่นประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการเกษตร = ทอง 4. การตอนสุกร = ทอง 5. การรีดเต้านมเทียม = ทอง 6. บรรจุพันธ์ปลา = ทอง 7. การประกวดโมเดลธุกิจนวัตกรรมการเกษตร = เงิน 8. การขยายพันธุ์พืช ติดตา-ต่อกิ่ง-ทาบกิ่ง = ทอง 9. การตรวจวัดสมบัติดินภาคสนาม และการใช้ข้อมูลดินเพื่อการจัดการดินแบบแม่นยำ = ทอง 10. การพูดส่งเสริมการเกษตร = ทอง 11. การตัดแต่งซากสัตว์ปีก = ทอง 12. การวินิจฉัยโรคพืช = เงิน 13. โครงงานทางการเกษตร = ทอง 14. การคำนวณอัตราการใช้ และพ่นสารกำจัดวัชพืช = ทอง 15. การทอดแห = ทอง 16. การตัดขวางชิ้นเนื้อเยื่อโรคพืช = เงิน (กีฬาสาธิต) 17. การกรอกวัสดุปลูกใส่ถุง = ทอง 18. การเข้าด้ามจอบเตรียมแปลง = ทอง 19. การวิเคราะห์อาหารสัตว์ = เงิน 20. การตอบปัญหาทางการเกษตร = เงินนอกจากนี้ นางสาวแสงเทียน ได้ตั้งใจนึก นักศึกษาคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี ยังได้รับรางวัล "คนดีศรีเกษตร" ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับนักศึกษาที่มีผลงานดีเด่นอย่างต่อเนื่อง หลากหลายและเป็นประจักษ์ในวงกว้าง ยกย่องผู้ที่มีความประพฤติดีเด่น และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักศึกษาในด้านการศึกษา คุณธรรม และความเสียสละ อีกด้วยทั้งนี้ งานประเพณี 4 จอบจัดขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนิสิตนักศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ ที่มีการเรียนการสอนด้านการเกษตร 4 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และทักษะทางวิชาการสาขาเกษตรศาสตร์ อันจะนำไปสู่การสร้างความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรของประเทศไทยในอนาคต โดยกำหนดให้มีการจัดงานขึ้นทุกปีอนึ่ง เมื่อครั้งที่มีการจัดงานประเพณี 4 จอบ ครั้งที่ 21 เมื่อปี 2546 ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นเจ้าภาพจัดงานได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี (พระอิสริยยศในขณะนั้น) พระราชทานถ้วยรางวัลคะแนนรวมในการแข่งขันกีฬาทักษะทางการเกษตร ถือเป็นกรุณาธิคุณแก่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกสถาบันเป็นล้นพ้น การแข่งขันในปีถัดจากนั้นมา สถาบันที่ได้รับรางวัลคะแนนรวมการแข่งขันกีฬาทักษะเกษตร จึงได้ครองถ้วยพระราชทานสืบต่อกันมา ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน
22 พฤศจิกายน 2567
“ในน้ำมีปลา ในนามีปู” ม.แม่โจ้ คว้ารางวัลชนะเลิศ Best of the Best ระดับประเทศ ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น 2567
“บ้านปูนา อ่องปูนา" ผลงานของ ทีม “ในน้ำมีปลา ในนามีปู” คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ คว้ารางวัล ชนะเลิศ ประเภท “กินดี” Best of the Best ระดับประเทศ ในโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น 2567 ซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารออมสินที่เปิดเวทีในนักศึกษาได้เรียนรู้ บูรณาการพัฒนาร่วมกับชุมชน เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากสู่ความยั่งยืน โดยในปีนี้มีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั่วประเทศกว่า 67 สถาบันการศึกษา ทั้งนี้ ได้เข้ารับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ นนทบุรี ทีม “ในน้ำมีปลา ในนามีปู” เป็นนักศึกษาคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ ได้แก่ นางสาวไอยเรศ เสาร์คำ , นายสรวิชญ์ จันทร์แดง , นางสาวไอซามี พงษ์จิระสกุลชัย , นางสาวเกวลิน กรแก้ว นางสาวภัสสิรา สิงห์อูป โดยมี อาจารย์ ดร.นงพงา แสงเจริญ , ผศ.ดร.ดารชาต์ เทียมเมือง และอาจารย์ ดร.วาธิณี อินทรพงษ์นุวัฒน์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา “บ้านปูนา อ่องปูนา" เป็นการทำงานร่วมกับวิสาหกิจชุมชนศูนย์เรียนรู้การเพาะเลี้ยงปูนาสันทราย ต.หนองแหย่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยนำความรู้มาศึกษาปัญหาเดิมของกลุ่มฯ ปรับปรุงพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ “อ่องปูนา แท้ 100 % สดใหม่ ส่งตรงจากฟาร์ม” ตามความต้องการของกลุ่มฯ ช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์อ่องปูนาให้มีอายุการเก็บนาน 1 ปี ในอุณหภูมิห้อง ทำให้อ่องปูนาซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือเป็นที่รู้จักมากขึ้น สามารถแข่งกับสินค้าอื่นๆ ได้ เพิ่มมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้เป็นที่สนใจ สะดวกต่อการรับประทาน และสามารถจัดจำหน่ายใน modern trade ได้ เป็นการส่งเสริมผลักดันให้มีคนในพื้นที่ได้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น เกิดการจ้างงานในชุมชน ลดปัญหาแรงงานย้ายถิ่นเข้าสู่เมืองหลวง และผลสุดท้ายคือประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้าน ผศ. ดร.อรพินธุ์ สฤษดิ์นำ ผู้รับผิดชอบโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “จากการเข้าร่วมโครงการฯ ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เห็นได้ว่า นักศึกษาเราประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศต่อเนื่อง 3 ปี ซ้อน คือปี 2565 ทีม เด็กโจ้อาสา พัฒนาธุรกิจชุมชน “น้ำพริกหมูฝอย” ประเภทกินดี คณะเศรษฐศาสตร์ปี 2566 ทีม ไพรรภัจน์ “สมุนไพรเพื่อสุขภาพ” ประเภทใช้ดี คณะผลิตกรรมการเกษตรปี 2567 ทีม ในน้ำมีปลา ในนามีปู “บ้านปูนา อ่องปูนา" ประเภท กินดี คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำถือเป็นการส่งเสริมให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 และทักษะการเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ ตามบริบทของแต่ละคณะ ที่มุ่งหวังจะพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น และสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP องค์กรชุมชน กลุ่มอาชีพในชุมชน ให้ก้าวไปสู่การเป็นธุรกิจที่มีความเข้มแข็ง เติบโตและยั่งยืน” ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน
11 พฤศจิกายน 2567
ขอเชิญร่วมระลึกถึง ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย อธิการบดีคนแรก คนต้นแบบลูกแม่โจ้
งานหนัก ไม่เคยฆ่าคนใครที่ตายเพราะทำงานหนัก ครูจะสร้างอนุสาวรีย์ ไว้ให้แม่โจ้"อมตะโอวาทศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย อธิการบดีคนแรก คนต้นแบบลูกแม่โจ้  ชาวแม่โจ้ ร่วม“ระลึกถึง ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย” วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567ณ ลานอนุสาวรีย์ฯ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ศิษย์เก่าแม่โจ้ รุ่น 1 อธิการบดีคนแรกของแม่โจ้ เป็นชาวจังหวัดแพร่ เกิดเมื่อวันที่ 12  มีนาคม 2459  หลังจากสอบไล่ได้มัธยมปีที่ 6 จากโรงเรียนพิริยาลัย จ.แพร่ก็ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่และย้ายมาเรียนที่โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมแม่โจ้ เมื่อปี 2477  ซึ่งถือเป็นรุ่น 1 รุ่นบุกเบิกและสร้างแม่โจ้เมื่อจบจากแม่โจ้ท่านสอบชิงทุนหลวงไปศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในฟิลิปปินส์จนจบปริญญาตรี ปี พ.ศ. 2484  จึงกลับมารับราชการเป็นอาจารย์ที่แม่โจ้ ตำแหน่งอาจารย์ผู้ปกครองนาน 6 ปี จากนั้นท่านไปลงสมัครผู้แทนราษฎร 2 ครั้ง  พอถึงปี พ.ศ. 2497 ท่านกลับเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ใหญ่ชั้นเอกของโรงเรียนเกษตรกรรมแม่โจ้ จวบจนกระทั่งได้เป็นอธิการบดีคนแรกของสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ถึง 2 สมัยศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ท่านเป็นนักประชาธิปไตยตัวอย่าง เป็นผู้มีเมตตาธรรม เป็นผู้ริเริ่มและพัฒนางานใหม่ๆเสมอ เป็นนักพัฒนาชนบท เป็นนักปกครองที่ดีเยี่ยม เป็นครู”ที่ประเสริฐ จากการทำงานหนักและผ่านประสบการณ์ต่างๆ ทำให้ชีวิตท่านแข็งแกร่ง ทรหดอดทน ไม่ท้อถอยและยอมแพ้ต่อปัญหา การดำเนินชีวิตที่ผ่านอุปสรรคมาได้ทำให้เกิดปรัชญาความจริงของชีวิต  ท่านได้ตระหนักถึงการเรียนและฝึกอบรมนักเรียนเกษตรต้องให้มีความอดทน ไม่ท้อถอย จึงจะสู้งานได้ทุกอย่างเป็นการหล่อหลอมนิสัยให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถเผชิญกับอุปสรรคและสามารถแก้ปัญหาลุล่วงได้ต่อไปจึงนับเป็นช่วงสำคัญของการพัฒนาแม่โจ้สู่มิติใหม่ นักเรียนต้องมีความพร้อมและต้องการเรียนเกษตรจริง ๆ ซึ่งท่านได้กล่าวแสดงความยินดีต่อนักศึกษาที่ผ่านการทดสอบว่าการเรียนเกษตรที่แม่โจ้นี้ ต้องฝึกความทรหดสู้งานทุกอย่างได้ ไม่ท้อถอย เพื่อจะได้เป็นลูกแม่โจ้ที่อดทน เข้มแข็ง ไม่กลัวงานหนัก งานหนักไม่เคยฆ่าคน ใครตายเพราะงานหนัก ครูจะสร้างอนุสาวรีย์ไว้ให้ที่แม่โจ้” ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต  บุญศรีวังซ้ายได้ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่  30 ตุลาคม 2527  บรรดาศิษย์เก่าแม่โจ้ สมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จึงได้กำหนดวันที่ 30 ตุลาคม ให้เป็น “วันวิภาต บุญศรี วังซ้าย” เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีที่ท่านได้สร้างและพัฒนาแม่โจ้ให้เจริญ เป็นผู้มีคุณูปการต่อวงการอาชีวเกษตรของประเทศไทย ผู้เป็นต้นแบบนักต่อสู้เอาชนะอุปสรรค และปลดแอกข้อจำกัดของวงการอาชีวเกษตรในอดีต เป็นคนต้นแบบลูกแม่โจ้ ตามปรัชญางานหนักไม่เคยฆ่าคน”อันเป็นคติพจน์ประจำใจของ ลูกแม่โจ้จวบจนปัจจุบันขอเรียนเชิญคณาจารย์  นักศึกษา บุคลากร และศิษย์แม่โจ้ทุกรุ่นร่วมงานระลึกถึง ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย”ในวันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567ตั้งแต่เวลา 07.30 น. เป็นต้นไป  ณ  ลานอนุสาวรีย์ ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้ายหน้าสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ หมายเหตุ : การแต่งกายชุดพื้นเมือง หรือชุดสุภาพ
28 ตุลาคม 2567
คณะกรรมการส่งเสริมมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ร่วมขับเคลื่อนประเทศไทย มุ่งสู่ Net Zero 2065
มหาวิทยาลัยแม่โจ้  และคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสัมมนาคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ครั้งที่ 9 “บทบาทคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย มุ่งสู่ Net Zero 2065” ระหว่างวันที่ 1 – 3 พฤศจิกายน  2567  ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และโรงแรมแชงกรี-ลา  จ.เชียงใหม่ การประชุมสัมมนาฯ ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมระดมความคิดของคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยจาก 148 แห่ง ทั่วประเทศ ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทย สู่ Net Zero ผสานกลยุทธ์การวิจัย การเรียนการสอนและบริหารจัดการวิชาการเข้ากับแนวคิด Green University  รวมถึงการปรับตัวสานกลยุทธ์ธุรกิจ สู่ Net  Zero เพื่อรับมือกับข้อกำหนดทางการค้าและเงื่อนไขตลาดทุนโลก ได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมทั้ง มอบนโยบายที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยเพื่อมุ่งสู่ Net Zero ได้อย่างเป็นรูปธรรม และยังได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิร่วมบรรยายพิเศษ และร่วมเวทีเสวนา ในประเด็นที่น่าสนใจ  ได้แก่ -  เรื่อง“มหาวิทยาลัยแม่โจ้กับการขับเคลื่อนประเทศไทย สู่ Net Zero” , ผสานกลยุทธ์การวิจัย การเรียนการสอนและบริหารจัดการวิชาการเข้ากับแนวคิด Green University การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ โดย รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล  ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้   - เรื่อง “Climate Change วิกฤตของโลก และทางออกของเรา” ความรู้และงานวิจัยเกี่ยวกับวิกฤติโลกร้อน ความร่วมมือระหว่างประเทศ และนวัตกรรมที่จะนำพาโลกสู่สภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น และแนวทางที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทยในการมุ่งสู่ Net Zero โดย รองศาสตราจารย์ ดร.เศรษฐ์ สัมภัตตะกุล รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักบริการวิชาการ (UNISERV) และหัวหน้าหน่วยวิจัยเพื่อการจัดการพลังงานและเศรษฐนิเวศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ - เรื่อง “ทศวรรษแห่งการปรับตัว สานกลยุทธ์ธุรกิจสู่ Net Zero” กลยุทธ์ธุรกิจยุคใหม่เพื่อรับมือกับข้อกำหนดทางการค้า และเงื่อนไขตลาดทุนโลกและมุมมองเกี่ยวกับการพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจในทศวรรษที่ผ่านมาและในอนาคต โดย นายธีรพงศ์  จันศิริ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)การเสวนา เรื่อง “บทบาทของคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยกับการพัฒนามหาวิทยาลัย” โดยผู้แทนคณะกรรมการส่งเสริมจากทุกกลุ่มสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมการประชุมสัมมนานอกจากนั้น  จะมีการเยี่ยมชมศึกษาดูงานโครงการต่างๆ ของมหาวิทยาลัย  ฟาร์มมหาวิทยาลัย โรงเรือนไส้เดือนดินกำจัดขยะอินทรีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย การผลิตปุ๋ยอินทรีย์  การผลิตกัญชาอินทรีย์เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์  ศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ และเกษตรอัจฉริยะ Smart Fishery พร้อมทั้งเยี่ยมชมศึกษาดูงาน  บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน)  บริษัท ปลูกผักเพระรักแม่โ จำกัด (มหาชน) (โอ้กะจู๋) และ บริษัท กรีนไดมอนด์ จำกัด (บุญสมฟาร์มสาหร่ายเกลียวทอง)  ซึ่งเป็นภาคีภาคธุรกิจที่มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้  รวมถึงการศึกษาดูงานด้านศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ล้านนา และด้านหัตถกรรมและเศรษฐกิจท้องถิ่น  ดร.วรพงศ์ นันทาภิวัฒน์ ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “ขอเชิญชวนคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยทุกท่านเข้าร่วมการประชุมสัมมนาในครั้งนี้ เพราะคณะกรรมการส่งเสริมฯ คือผู้เกี่ยวข้องในวงการธุรกิจและการศึกษา เราจะได้มีส่วนร่วมในการหารือและหาข้อแนะนำในการที่จะทำให้ประเทศเราบรรลุการเป็น Net Zero ในปี 2065 ได้”  การประชุมสัมมนาคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ครั้งที่ 9 นอกจากเผยแพร่ภาพลักษณ์และสร้างชื่อเสียงที่ดีให้แก่มหาวิทยาลัย และจังหวัดเชียงใหม่ แล้ว ยังเป็นกิจกรรมการสร้างความสัมพันธ์และส่งเสริมเครือข่ายของมหาวิทยาลัยทุกภาคส่วนให้สามารถพัฒนาขีดความสามารถที่เกิดประโยชน์ต่อสังคม เศรษฐกิจและชุมชนในทุกมิติต่อไป
21 ตุลาคม 2567
ม.แม่โจ้ จัดงานแสดงกตเวทิตาจิตผู้เกษียณอายุ ประจำปี 2567 “กตเวทิตาจิต ร้อยดวงใจสานสายใยชาวแม่โจ้”
มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดงานแสดงกตเวทิตาจิตผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2567  “กตเวทิตาจิต ร้อยดวงใจสานสายใยชาวแม่โจ้” เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ ตระหนักถึงความสำคัญและความเสียสละของบุคลากรทุกท่าน และร่วมน้อมคารวะต่อผู้อาวุโสที่ครบวาระเกษียณอายุ ผู้สร้างคุณูปการต่อองค์กรและต่อสังคม  ในวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2567  เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป  ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ  มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งในปีนี้ มีจำนวน 31 ท่าน  แบ่งเป็น ข้าราชการ  จำนวน 4 รายรองศาสตราจารย์ ดร.วิจิตรา  แดงปรก ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์  สังกัดคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กิตตินุช  ชุลิกาวิทย์ ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์  สังกัดคณะบริหารธุรกิจผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เสาวลักษณ์  ชายทวีป ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดคณะศิลปศาสตร์นางศรีกุล  นันทะชมภู ตำแหน่ง นักวิชาการคอมพิวเตอร์เชี่ยวชาญ  สังกัดสำนักงานมหาวิทยาลัย ลูกจ้างประจำ  จำนวน 2 รายนายศรชัย  ยาวิชัย  ตำแหน่ง ช่างฝีมือโรงงาน ระดับ ช 4 สังกัดงานระบบสาธารณูปโภค กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม สำนักงานมหาวิทยาลัยนายสมใจ  ปงหาญ ตำแหน่ง พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดเบา ระดับ ช 2 สังกัดฟาร์มมหาวิทยาลัย   พนักงานมหาวิทยาลัย  จำนวน 22 รายรองศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ์  ศรีเงินยวง ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ สังกัดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบสิ่งแวดล้อม  ตำแหน่งบริหาร รองอธิการบดีผู้ช่วยศาสตราจารย์พาวิน  มะโนชัย ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดคณะผลิตกรรมการเกษตร ตำแหน่งบริหาร รองอธิการบดีอาจารย์ ดร.ชัชวิจก์  ถนอมถิ่น ตำแหน่ง อาจารย์ สังกัดคณะผลิตกรรมการเกษตรผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุรีย์วัลย์  เมฆกมล ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดคณะผลิตกรรมการเกษตร   5. นางพิกุล นิลวาส ตำแหน่ง ตำแหน่ง หัวหน้างานคลังและพัสดุ สังกัดงานคลังและพัสดุ สำนักงานคณบดี คณะผลิตกรรมการเกษตร คณะผลิตกรรมการเกษตร   6. รองศาสตราจารย์ ดร.ยงยุทธ  ข้ามสี่ ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ สังกัดคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร   7. อาจารย์ ดร.ภานาถ  แสงเจริญรัตน์ ตำแหน่ง อาจารย์ สังกัดคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร   8. อาจารย์ชัช  พชรธรรมกุล ตำแหน่ง อาจารย์ สังกัดคณะพัฒนาการท่องเที่ยว   9. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมธี  วงศ์วีระพันธุ์ ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดคณะศิลปศาสตร์  10.นางสาวรดาพร ทองมา ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานคณบดีวิทยาลัยนานาชาติ สังกัดสำนักงานคณบดี วิทยาลัยนานาชาติ  วิทยาลัยนานาชาติ  11. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกพิชญ์  ชินะข่าย ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดวิทยาลัยบริหารศาสตร์  12.นางผ่องรักษ์ ยศเดช ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปชำนาญการ สังกัดงานอำนวยการ  กองพัฒนานักศึกษา สำนักงานมหาวิทยาลัย  13. นางสุพรรณ์ ดวงบาล ตำแหน่ง นักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ สังกัดงานบริหารการเงิน 1 กองคลัง สำนักงานมหาวิทยาลัย  14. นายพิจักษณ์ อนุสรณ์รัชดา ตำแหน่ง นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ สังกัดงานการกีฬา กองพัฒนานักศึกษา สำนักงานมหาวิทยาลัย  15. ดร.ชาญวิทยายุทธ์ อินทร์แก้ว ตำแหน่ง หัวหน้างานการกีฬา สังกัดงานการกีฬา กองพัฒนานักศึกษา สำนักงานมหาวิทยาลัย  16. นายประศาสน์ ก้องสมุทร ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองตรวจสอบภายใน สังกัดกองตรวจสอบภายใน สำนักงานมหาวิทยาลัย  17. นางสาวรุ่งทิวา เลขะวัฒนะ ตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหารปฏิบัติงาน สังกัดงานอำนวยการ กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม สำนักงานมหาวิทยาลัย  18. นางสาวนวลนิตย์ ปิ่นนิกร ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองเลขานุการสภามหาวิทยาลัย สังกัดกองเลขานุการ สภามหาวิทยาลัย สำนักงานสภามหาวิทยาลัย  19. นางสาวพรินทร บุญเรือง ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองบริหารงานสำนักบริหารและพัฒนาวิชาการ  สังกัดกองบริหารงานสำนักบริหารและพัฒนาวิชาการ สำนักบริหารและพัฒนาวิชาการ  20. นายยุทธนา ชำนาญ ตำแหน่ง พนักงานขับรถปฏิบัติงาน สังกัดงานบริหารและธุรการ กองบริหารงานสำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร  21. นางสาวรังสิมา อัมพวัน ตำแหน่ง นักวิจัยชำนาญการพิเศษ  สังกัดงานปรับปรุงและขยายพันธุ์พืชและสัตว์ กองบริหารงานบริการวิชาการ สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร  22.นางจิณาภา ใคร้มา ตำแหน่ง นักเอกสารสนเทศชำนาญการพิเศษ สังกัดฝ่ายพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สำนักหอสมุดพนักงานส่วนงาน  จำนวน 3 รายนางอัมพร ปาวิน ตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร สังกัดงานอำนวยการ กองพัฒนานักศึกษา สำนักงานมหาวิทยาลัยนายเชาวรัตน์ แสงคำ ตำแหน่ง ช่างเทคนิค สังกัดงานการกีฬา กองพัฒนานักศึกษา สำนักงานมหาวิทยาลัยสิบตรีสมจิตร์  พรหมมา ตำแหน่ง พนักงานขับรถ สังกัดงานบริหารและธุรการ สำนักงานคณบดี วิทยาลัยบริหารศาสตร์ วิทยาลัยบริหารศาสตร์ โอกาสนี้  ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล  ทองมา  อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวขอบคุณและอวยพร  พร้อมทั้งมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับผู้เกษียณอายุ ตามกำหนดการ ดังนี้ เวลา 13.00 นลงทะเบียนรับหนังสือที่ระลึกเวลา 13.30 นผู้ร่วมงานพร้อมกัน ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้เวลา 13.45 นพิธีกรแจ้งกำหนดการเวลา 13.50 นชมการแสดง จาก กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมเวลา 14.00 นนำเสนอ Presentation ประวัติและผลงานของผู้เกษียณอายุเวลา 14.10 นรองอธิการบดีรองศาสตราจารย์จักรพงษ์  พิมพ์พิมลกล่าวรายงานเวลา 14.20 นอธิการบดีมอบโล่และประกาศเกียรติคุณแด่ผู้เกษียณเวลา 15.20 นอธิการบดีกล่าวขอบคุณและอวยพรแด่ผู้เกษียณอายุเวลา 15.30 น.    ผู้แทนผู้เกษียณอายุกล่าวแสดงความรู้สึกผู้ช่วยศาสตราจารย์พาวิน  มะโนชัย)เวลา 15.40 นบันทึกภาพร่วมกันเวลา 16.30 นเสร็จพิธี ขอเชิญชาวแม่โจ้ร่วมแสดงกตเวทิตาจิตผู้เกษียณอายุ ในวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ณ  ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  กองบริหารทรัพยากรบุคคล  สำนักงานมหาวิทยาลัย โทร. 0 5387 3133หมายเหตุ 1. ส่วนงาน/หน่วยงานต่าง ๆ มอบของที่ระลึกแด่ผู้เกษียณอายุ ก่อนหรือหลังพิธีการตามอัธยาศัยสำหรับผู้เกษียณอายุท่านใดต้องการไฟล์ Presentation และไฟล์รูปภาพในงานดังกล่าว                    ให้ติดต่อขอรับได้ที่ งานทะเบียนประวัติ กองบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานมหาวิทยาลัยการแต่งกาย ชุดผ้าไทย หรือชุดพื้นเมือง
9 กันยายน 2567
ทีม Agro-Power ม.แม่โจ้ เปลี่ยนขยะเศษอาหารเป็นทุนชีวิต คว้า 2 รางวัลระดับประเทศ จากมูลนิธิรากแก้ว
ทีม Agro-Power มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตัวแทนทีมจากภาคเหนือ  คว้า 2 รางวัล จากการร่วมจัดแสดงผลงานและนำเสนอ โครงการพัฒนาที่ยั่งยืนของนิสิตนักศึกษา ระดับประเทศ ประจำปี 2567 หรือ Rakkaew Foundation National Exposition University Sustainability Showcase  จัดโดย มูลนิธิรากแก้ว เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศได้แสดงผลของโครงการที่ได้ร่วมดำเนินงานกับชุมชน นำไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนกับชุมชนมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีทีมจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ 26 ทีม  ระหว่างวันที่ 23-24 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์  กรุงเทพมหานครสำหรับ ทีม Agro-Power นำเสนอโครงการภายใต้ชื่อ "พลังเกษตรเปลี่ยนขยะเศษอาหารเป็นทุนชีวิต"  เป็นผลงานที่มุ่งเน้นแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน  โดยนำเศษอาหารเหลือทิ้งจากโรงพยาบาล จากชุมชน มาเลี้ยงหนอนแมลงวันทหารดำซึ่งมีคุณสมบัติย่อยขยะสดได้ดี แล้วนำตัวหนอนที่มีโปรตีนสูงไปเป็นอาหารสัตว์ เลี้ยงเปิด เลี้ยงไก่ นำมูลของหนอนไปเป็นวัสดุปลูกพืชผัก จากนั้นจึงเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ได้มาใช้ในชีวิตประจำวัน และยังสร้างรายได้เพิ่มต่อไป  ซึ่งโครงการนี้ได้สร้างความประทับใจด้วยแนวทางการเปลี่ยนแปลงขยะเศษอาหารให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการและผู้ร่วมงานทั้งในด้านนวัตกรรมและผลกระทบต่อสังคม  ทำให้ทีม Agro-Power จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สามารถคว้ารางวัลเหรียญเงิน ประเภท โครงการใหม่ประจำปี 2567 และ รางวัลโครงการดีเด่นประจำภาคเหนือ (Outstanding Project Regional North)ทีม Agro-Power  เป็นการรวมตัวของนักศึกษา 2 คณะ มีสมาชิก 6 คน   ได้แก่ นายณัฐวัตร แซ่เซียว คณะผลิตกรรมการเกษตรนางสาวจุฑามาศ เกิดโต คณะผลิตกรรมการเกษตรนายธนพล ต๋าคำ คณะผลิตกรรมการเกษตรนายเอกพล แก้วบุญเรือง คณะผลิตกรรมการเกษตรนายรัตติเทพ เครืออินทร์ วิทยาลัยพลังงานทดแทนนางสาวอรนิชา ทิพย์ชัย วิทยาลัยพลังงานทดแทนโดยมี  อาจารย์ ดร.วงค์พันธ์ พรหมวงศ์  และ นายพิชิตพงษ์ ไชยโยชน์  เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาอาจารย์ ดร.วงค์พันธ์ พรหมวงศ์ อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการฯ กล่าวว่า "รางวัลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถและความมุ่งมั่นของนักศึกษาในการพัฒนาสังคม กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงผลงานและศักยภาพของเยาวชนไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในสังคมไทยในอนาคต นอกจากนี้ โครงการยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs ซึ่งมหาวิทยาลัยแม่โจ้มีแผนจะต่อยอดและขยายผลโครงการนี้ไปยังชุมชนต่าง ๆ ในอนาคตต่อไป" ฝ่ายสื่อสารองค์กร  ม.แม่โจ้ // รายงาน
29 สิงหาคม 2567
งานวิจัยแม่โจ้ สู่ สินค้าคุณภาพ โชว์งาน อว.แฟร์ 2024 พร้อมจัดจำหน่าย
 ศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมทางการเกษตรสำหรับบัณฑิตผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ (Agri Inno) นำทีมผู้ประกอบการภายใต้ความร่วมมือของศูนย์ Agri inno มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ได้ส่งเสริม ผลักดันผู้ประกอบการที่ได้รับการสนับสนุนการนำงานวิจัยออกไปใช้ประโยชน์ (Licensing)จากมหาวิทยาลัยออกสู่เชิงพาณิชย์ และงานที่ได้รับทุนสนับสนุนผ่านกลไกรายภูมิภาค Regional Innovation Business Platform ของ NIA  เข้าร่วมงานมหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์ อววน. เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนด้วยพลังสหวิทยาการ หรือ งาน อว.แฟร์  2024  ที่จัดขึ้นโดยกระทรวง อว. ผสานพลังความร่วมมือกับทุกภาคส่วนจัดงาน  ระหว่างวันที่ 22-28 ก.ค.2567  ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  กรุงเทพฯรศ.ดร.ดวงพร  อมรเลิศพิศาล  หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมทางการเกษตรสำหรับบัณฑิตผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า  “ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมจัดแสดงผลงานและนวัตกรรม ในงาน อว.แฟร์ 2024  มีผลิตภัณฑ์ที่มาจากผลงานวิจัยของนักวิจัยมหาวิทยาลัยแม่โจ้  4 ผลงาน ได้แก่ผลิตภัณฑ์ ImuneUp  ของ  บริษัท BIST Inno Reform เป็นผลิตภัณฑ์จากเห็ดมีสรรพคุณทางยาทำหน้าที่เสริมภูมิคุ้มกันในระดับเซลล์ (CELL based Immune Boosting Ingredient) ป้องกันโรคกลุ่ม NCDs ผ่านทดสอบระสิทธิภาพและความปลอดภัยในมนุษย์ ผลิตภัณฑ์แบรนด์ Vetnova  ของ บริษัท Ani Pproduct   นวัตกรรมเกี่ยวกับสัตว์  ได้แก่ DipDip ฟิล์มเคลือบจุ่มเต้านมโคจากธรรมชาติ และ Petty สเปรย์ป้องกัน และกำจัดปรสิตภายนอก ในสัตว์เลี้ยง โดยมีส่วนผสมจากสมุนไพร และใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีสีเขียว (Green technology) เพื่อลดการใช้สารเคมี และเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันที่ยาวนาน ผลิตภัณฑ์ Pre, Pro, Postbiotics แบรนด์ Bioblend ของ บริษัท All About Extract ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพลำไส้ มีส่วนผสมสำคัญจากสารประกอบเชิงหน้าที่เสริมภูมิคุ้มกัน(Functional Ingredients) ได้แก่ พรีไบโอติกส์ โพรไบโอติกส์ โพสไบโอติกส์ ส่งเสริมสุขภาวะที่ดีทั้งร่ายกายและจิตใจ ผลิตภัณฑ์น้ำหอมแบรนด์  JOH ของ บริษัท BSN Life นวัตกรรมน้ำหอมผสานน้ำมันสกัดจาก Crocodile Oil  ทำหน้าที่เป็นสารตรึงกลิ่นหอมขึ้นให้กับน้ำหอมของ JOH  ทำให้ความหอมติดทนยาวนานพร้อมบำรุงผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแม้ผิวบอบบางนอกจากนั้น ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการต่อยอดโดยผู้ประกอบการที่ร่วมทุนและผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการที่ ศูนย์ Agri inno แม่โจ้ ช่วยพัฒนาโครงการนวัตกรรมให้กับผู้ประกอบการโดยนำงานวิจัยของนักวิจัยที่มีศักยภาพมาต่อยอดเชิงพาณิชย์ ร่วมจัดแสดงในงานนี้อีกมากกว่า 10 ราย  ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมจัดแสดง ในงาน อ.ว.แฟร์ 2024  ครั้งนี้ ได้รับความสนใจ และการตอบรับเป็นอย่างดี  ถือเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการที่นำงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้ อย่างเป็นรูปธรรม” ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน
6 สิงหาคม 2567
เฮลั่น !! ม.แม่โจ้ คว้าแชมป์ งานกีฬาประเพณี4จอบแห่งชาติ ครั้งที่ 39 ครองถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำทีมนักกีฬาทักษะเกษตร จาก 3 คณะได้แก่ คณะผลิตกรรมการเกษตร คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี และ คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทักษะเกษตร และกีฬาสากล ในงานประเพณี 4 จอบแห่งชาติ ครั้งที่ 39 “เกษตรแดนศิลป์ ถิ่นเมืองพริบพรี” ซึ่งมีสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีการเรียนการสอนทางด้านการเกษตรจากทั่วประเทศ เข้าร่วมชิงชัย 12 สถาบัน ระหว่างวันที่ 18 - 21 พฤศจิกายน 2567 ณ มหาวิทยาลัยศิลปกร วิทยาเขต สารสนเทศเพชรบุรี ผลการแข่งขัน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับรางวัลชนะเลิศ ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โดย สามารถกวาดมาได้ 15 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญเงินกีฬาสาธิต รวม 20 เหรียญ จาก 21 ทักษะ ดังนี้1. การจัดสวนถาด = ทอง 2. การเชตแมลง = ทอง 3. การผลิตแผ่นประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการเกษตร = ทอง 4. การตอนสุกร = ทอง 5. การรีดเต้านมเทียม = ทอง 6. บรรจุพันธ์ปลา = ทอง 7. การประกวดโมเดลธุกิจนวัตกรรมการเกษตร = เงิน 8. การขยายพันธุ์พืช ติดตา-ต่อกิ่ง-ทาบกิ่ง = ทอง 9. การตรวจวัดสมบัติดินภาคสนาม และการใช้ข้อมูลดินเพื่อการจัดการดินแบบแม่นยำ = ทอง 10. การพูดส่งเสริมการเกษตร = ทอง 11. การตัดแต่งซากสัตว์ปีก = ทอง 12. การวินิจฉัยโรคพืช = เงิน 13. โครงงานทางการเกษตร = ทอง 14. การคำนวณอัตราการใช้ และพ่นสารกำจัดวัชพืช = ทอง 15. การทอดแห = ทอง 16. การตัดขวางชิ้นเนื้อเยื่อโรคพืช = เงิน (กีฬาสาธิต) 17. การกรอกวัสดุปลูกใส่ถุง = ทอง 18. การเข้าด้ามจอบเตรียมแปลง = ทอง 19. การวิเคราะห์อาหารสัตว์ = เงิน 20. การตอบปัญหาทางการเกษตร = เงินนอกจากนี้ นางสาวแสงเทียน ได้ตั้งใจนึก นักศึกษาคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี ยังได้รับรางวัล "คนดีศรีเกษตร" ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับนักศึกษาที่มีผลงานดีเด่นอย่างต่อเนื่อง หลากหลายและเป็นประจักษ์ในวงกว้าง ยกย่องผู้ที่มีความประพฤติดีเด่น และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักศึกษาในด้านการศึกษา คุณธรรม และความเสียสละ อีกด้วยทั้งนี้ งานประเพณี 4 จอบจัดขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนิสิตนักศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ ที่มีการเรียนการสอนด้านการเกษตร 4 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และทักษะทางวิชาการสาขาเกษตรศาสตร์ อันจะนำไปสู่การสร้างความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรของประเทศไทยในอนาคต โดยกำหนดให้มีการจัดงานขึ้นทุกปีอนึ่ง เมื่อครั้งที่มีการจัดงานประเพณี 4 จอบ ครั้งที่ 21 เมื่อปี 2546 ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นเจ้าภาพจัดงานได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี (พระอิสริยยศในขณะนั้น) พระราชทานถ้วยรางวัลคะแนนรวมในการแข่งขันกีฬาทักษะทางการเกษตร ถือเป็นกรุณาธิคุณแก่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกสถาบันเป็นล้นพ้น การแข่งขันในปีถัดจากนั้นมา สถาบันที่ได้รับรางวัลคะแนนรวมการแข่งขันกีฬาทักษะเกษตร จึงได้ครองถ้วยพระราชทานสืบต่อกันมา ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน
22 พฤศจิกายน 2567
“ในน้ำมีปลา ในนามีปู” ม.แม่โจ้ คว้ารางวัลชนะเลิศ Best of the Best ระดับประเทศ ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น 2567
“บ้านปูนา อ่องปูนา" ผลงานของ ทีม “ในน้ำมีปลา ในนามีปู” คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ คว้ารางวัล ชนะเลิศ ประเภท “กินดี” Best of the Best ระดับประเทศ ในโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น 2567 ซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารออมสินที่เปิดเวทีในนักศึกษาได้เรียนรู้ บูรณาการพัฒนาร่วมกับชุมชน เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากสู่ความยั่งยืน โดยในปีนี้มีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั่วประเทศกว่า 67 สถาบันการศึกษา ทั้งนี้ ได้เข้ารับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ นนทบุรี ทีม “ในน้ำมีปลา ในนามีปู” เป็นนักศึกษาคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ ได้แก่ นางสาวไอยเรศ เสาร์คำ , นายสรวิชญ์ จันทร์แดง , นางสาวไอซามี พงษ์จิระสกุลชัย , นางสาวเกวลิน กรแก้ว นางสาวภัสสิรา สิงห์อูป โดยมี อาจารย์ ดร.นงพงา แสงเจริญ , ผศ.ดร.ดารชาต์ เทียมเมือง และอาจารย์ ดร.วาธิณี อินทรพงษ์นุวัฒน์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา “บ้านปูนา อ่องปูนา" เป็นการทำงานร่วมกับวิสาหกิจชุมชนศูนย์เรียนรู้การเพาะเลี้ยงปูนาสันทราย ต.หนองแหย่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยนำความรู้มาศึกษาปัญหาเดิมของกลุ่มฯ ปรับปรุงพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ “อ่องปูนา แท้ 100 % สดใหม่ ส่งตรงจากฟาร์ม” ตามความต้องการของกลุ่มฯ ช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์อ่องปูนาให้มีอายุการเก็บนาน 1 ปี ในอุณหภูมิห้อง ทำให้อ่องปูนาซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือเป็นที่รู้จักมากขึ้น สามารถแข่งกับสินค้าอื่นๆ ได้ เพิ่มมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้เป็นที่สนใจ สะดวกต่อการรับประทาน และสามารถจัดจำหน่ายใน modern trade ได้ เป็นการส่งเสริมผลักดันให้มีคนในพื้นที่ได้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น เกิดการจ้างงานในชุมชน ลดปัญหาแรงงานย้ายถิ่นเข้าสู่เมืองหลวง และผลสุดท้ายคือประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้าน ผศ. ดร.อรพินธุ์ สฤษดิ์นำ ผู้รับผิดชอบโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “จากการเข้าร่วมโครงการฯ ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เห็นได้ว่า นักศึกษาเราประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศต่อเนื่อง 3 ปี ซ้อน คือปี 2565 ทีม เด็กโจ้อาสา พัฒนาธุรกิจชุมชน “น้ำพริกหมูฝอย” ประเภทกินดี คณะเศรษฐศาสตร์ปี 2566 ทีม ไพรรภัจน์ “สมุนไพรเพื่อสุขภาพ” ประเภทใช้ดี คณะผลิตกรรมการเกษตรปี 2567 ทีม ในน้ำมีปลา ในนามีปู “บ้านปูนา อ่องปูนา" ประเภท กินดี คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำถือเป็นการส่งเสริมให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 และทักษะการเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ ตามบริบทของแต่ละคณะ ที่มุ่งหวังจะพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น และสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP องค์กรชุมชน กลุ่มอาชีพในชุมชน ให้ก้าวไปสู่การเป็นธุรกิจที่มีความเข้มแข็ง เติบโตและยั่งยืน” ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน
11 พฤศจิกายน 2567
ทีม Agro-Power ม.แม่โจ้ เปลี่ยนขยะเศษอาหารเป็นทุนชีวิต คว้า 2 รางวัลระดับประเทศ จากมูลนิธิรากแก้ว
ทีม Agro-Power มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตัวแทนทีมจากภาคเหนือ  คว้า 2 รางวัล จากการร่วมจัดแสดงผลงานและนำเสนอ โครงการพัฒนาที่ยั่งยืนของนิสิตนักศึกษา ระดับประเทศ ประจำปี 2567 หรือ Rakkaew Foundation National Exposition University Sustainability Showcase  จัดโดย มูลนิธิรากแก้ว เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศได้แสดงผลของโครงการที่ได้ร่วมดำเนินงานกับชุมชน นำไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนกับชุมชนมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีทีมจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ 26 ทีม  ระหว่างวันที่ 23-24 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์  กรุงเทพมหานครสำหรับ ทีม Agro-Power นำเสนอโครงการภายใต้ชื่อ "พลังเกษตรเปลี่ยนขยะเศษอาหารเป็นทุนชีวิต"  เป็นผลงานที่มุ่งเน้นแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน  โดยนำเศษอาหารเหลือทิ้งจากโรงพยาบาล จากชุมชน มาเลี้ยงหนอนแมลงวันทหารดำซึ่งมีคุณสมบัติย่อยขยะสดได้ดี แล้วนำตัวหนอนที่มีโปรตีนสูงไปเป็นอาหารสัตว์ เลี้ยงเปิด เลี้ยงไก่ นำมูลของหนอนไปเป็นวัสดุปลูกพืชผัก จากนั้นจึงเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ได้มาใช้ในชีวิตประจำวัน และยังสร้างรายได้เพิ่มต่อไป  ซึ่งโครงการนี้ได้สร้างความประทับใจด้วยแนวทางการเปลี่ยนแปลงขยะเศษอาหารให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการและผู้ร่วมงานทั้งในด้านนวัตกรรมและผลกระทบต่อสังคม  ทำให้ทีม Agro-Power จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สามารถคว้ารางวัลเหรียญเงิน ประเภท โครงการใหม่ประจำปี 2567 และ รางวัลโครงการดีเด่นประจำภาคเหนือ (Outstanding Project Regional North)ทีม Agro-Power  เป็นการรวมตัวของนักศึกษา 2 คณะ มีสมาชิก 6 คน   ได้แก่ นายณัฐวัตร แซ่เซียว คณะผลิตกรรมการเกษตรนางสาวจุฑามาศ เกิดโต คณะผลิตกรรมการเกษตรนายธนพล ต๋าคำ คณะผลิตกรรมการเกษตรนายเอกพล แก้วบุญเรือง คณะผลิตกรรมการเกษตรนายรัตติเทพ เครืออินทร์ วิทยาลัยพลังงานทดแทนนางสาวอรนิชา ทิพย์ชัย วิทยาลัยพลังงานทดแทนโดยมี  อาจารย์ ดร.วงค์พันธ์ พรหมวงศ์  และ นายพิชิตพงษ์ ไชยโยชน์  เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาอาจารย์ ดร.วงค์พันธ์ พรหมวงศ์ อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการฯ กล่าวว่า "รางวัลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถและความมุ่งมั่นของนักศึกษาในการพัฒนาสังคม กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงผลงานและศักยภาพของเยาวชนไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในสังคมไทยในอนาคต นอกจากนี้ โครงการยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs ซึ่งมหาวิทยาลัยแม่โจ้มีแผนจะต่อยอดและขยายผลโครงการนี้ไปยังชุมชนต่าง ๆ ในอนาคตต่อไป" ฝ่ายสื่อสารองค์กร  ม.แม่โจ้ // รายงาน
29 สิงหาคม 2567
ร่วมการประกวดตำแหน่ง MJU Pride Ambassador 2024
การประกวด MJU pride Ambassador 2024 และ MJU pride best costume by Mplusภายใต้แนวคิด “ตระหนักรู้เปิดประตู่สู่ความเท่าเทียม”เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ เกิดความภาคภูมิใจและเข้าใจบริบทการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างภาคภูมิใจ อย่างเท่าเทียม ซึ่งนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ มีความหลากลายทั้งเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างหลากหลายทางเพศ ทั้งเพศภาพที่ไม่ตรงกับเพศกำเนิด ซึ่งในปัจจุบันสังคมให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อให้ความหลากหลายทางเพศได้รับความเท่าเทียม ที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น กิจกรรม MJU Pride จึงจัดขึ้นเพื่อให้ นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้เชียงใหม่ ที่มีจำนวนไม่น้อย ทั้งสาวประเภทสอง กะเทย เกย์ ทอม ดี้ หรือกลุ่ม LGBTQ+ ให้มีความภาคภูมิใจ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขในการเป็นตัวของตัวเอง สอดคล้องกับกิจกรรม Pride Month ที่สากลกำหนดขึ้นในเดือนมิถุนายน ให้กลุ่มหลากหลายทางเพศมีความภาคภูมิใจ MJU pride Ambassador 2024 จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของความภาคภูมิใจ ของความเท่าเทียมและ ความหลากหลายทางเพศ เป็นเหมือนผู้แทนนำเสนอความต้องการของกลุ่มหลากหลายทางเพศ ที่เป็นกลุ่ม LGBTQ+ ที่จะช่วยเป็นสื่อกลางประชาสัมพันธ์กิจกรรมและส่งเสริมภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ในเรื่องการตระหนักรู้เรื่องการให้เกียรติการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเท่าเทียม โดยมหาวิทยาลัยแม่โจ้จะจัดกิจกรรม MJU Pride "ตระหนักรู้ เปิดประตูสู่ความเท่าเทียม" ในวันพุธที่ 26 มิถุนายน 2567 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณกาดคาวบอยแม่โจ้ พบกับ กิจกรรมขบวนพาเหรด MJU Pride สุดอลังการ และกิจกรรมตรวจเลือดพร้อมข้อมูลสุขภาพจากหน่วยงานชั้นนำอย่าง Mplus Thailand พร้อมร่วมสนุกกับบูทจากคณะต่างๆ สุดพิเศษสัมภาษณ์แขกรับเชิญสุดเซอร์ไพร์ซอีกมากมาย จึงขอเชิญนักศึกษาหรือศิษย์เก่า ร่วมการประกวดตำแหน่ง MJU Pride Ambassador 2024 และ MJU pride best costume by Mplus ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้1. คุณสมบัติของผู้เข้าประกวด MJU pride Ambassador 2024นักศึกษา บุคลากร หรือศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ไม่จำกัดเพศ/ อายุมีความภาคภูมิใจ และเห็นคุณค่าความเท่าเทียมในสังคมสามารถเป็นตัวแทนร่วมทำกิจกรรม ช่วยประชาสัมพันธ์งานของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้ดำรงตำแหน่ง MJU pride Ambassador 2024 ตลอดทั้งปี 2567สามารถเป็นกระบอกเสียง ตัวแทนการนำเสนอในเรื่องของความเท่าเทียมในสังคมเกณฑ์การตัดสินบุคลิกภาพ การนำเสนอตัวตนถึงความภาคภูมิใจ และเห็นคุณค่าความเท่าเทียมในสังคมความสามารถในการตอบคำถาม การแสดงออกนำเสนอแนวคิดถึงความเท่าเทียมผลการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุดเงินรางวัล MJU pride Ambassador 2024รางวัลเงินสด 8,000 บาท พร้อมมงกุฎและสายสะพาย บัตรกำนัล “ทำตาสองชั้น” 1 รางวัล , “เสริมจมูก” 1 รางวัล จาก อีเดน คลินิกมูลค่ารวมกว่า 25,000 บาท เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึง 21 มิถุนายน 2567  สมัครได้ที่ >สมัคร MJU Pride 2024 (google.com) 2. คุณสมบัติของผู้เข้าประกวด MJU pride best costume by Mplus บุคคลทั่วไป ไม่จำกัดเพศ / อายุร่วมแต่งกายอย่างสร้างสรรค์ และเดินในขบวน MJU pride วันที่ 26 มิ.ย.67เดินโชว์บน run way สีรุ้ง ในกิจกรรม MJU prideเงินรางวัล MJU pride best costume by Mplusรางวัลชนะเลิศ เงินสด 5,000 บาท +สายสะพายรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินสด 3,000 บาท +สายสะพายรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินสด 2,000 บาท +สายสะพายสามารถสมัครได้ ณ สถานที่จัดกิจกรรม บริเวณกาดนัดคาวบอยแม่โจ้
19 มิถุนายน 2567
ม.แม่โจ้ - ชุมพร ปล่อยปลาคาร์ฟกว่าพันตัว เตรียมพัฒนาเป็นพ่อแม่พันธุ์สร้างมูลค่าเพิ่ม
 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ - ชุมพร ร่วมกับ คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ  มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และชมรมศิษย์เก่าแม่โจ้ชุมพร  ร่วมกิจกรรมปล่อยปลาคาร์ฟ จำนวน 1,500 ตัว  นำโดย  อาจารย์ ดร.ฐิระ ทองเหลือ คณบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพร  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จอมสุดา ดวงวงษา รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและกิจการพิเศษ  คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ พร้อมด้วย คณาจารย์ นักศึกษา และศิษย์เก่า เข้าร่วมกิจกรรม ณ บ่อน้ำ 35 ไร่ (บ่อเลี้ยงระบบปิด) ฟาร์มมหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพ ตำบลละแม อำเภอละแม จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา      โอกาสนี้ นางสาวเกศณีย์ แท่นนิล ประมงจังหวัดชุมพร เป็นผู้แทนมอบพันธุ์ปลาคาร์ฟ จำนวน 1,500 ตัว  ซึ่งได้รับการสนับสนุน จากนายสุชาติ จุลอดุง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร เพื่อใช้ในกิจกรรมครั้งนี้   โดยมหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพร ได้เตรียมพัฒนาพันธุ์ ปลาคาร์ฟดังกล่าวให้เป็นพ่อแม่พันธุ์ภายใต้การดูแลของนักวิชาการประมง  เพื่อใช้ในการเรียนการสอน ตลอดจนจำหน่ายพันธุ์ปลาต่อยอดเชิงธุรกิจ สร้างรายได้ให้มหาวิทยาลัยต่อไป
3 พฤษภาคม 2567
2 นศ.ชาวต่างประเทศ ม.แม่โจ้ คว้ารางวัล เสน่ห์เสียงไทย 2024 การประกวดอ่านออกเสียงร้อยแก้วสำหรับ นิสิตนักศึกษาชาวต่างประเทศ
นักศึกษาชาวต่างประเทศ หลักสูตรภาษาไทยสำหรับชาวต่างประเทศ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ คว้า 2 รางวัล ในโครงการ "เสน่ห์เสียงไทย : การประกวดอ่านออกเสียงร้อยแก้วสำหรับ นิสิตนักศึกษาชาวต่างประเทศ ประจำปี 2024" ผ่านระบบออนไลน์ Zoom meeting เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นโดย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับภาควิชาภาษาไทย วิทยาลัยภาษาต่างประเทศและวิเทศสัมพันธ์ฉงชิ่ง เพื่อให้นักศึกษาชาวต่างประเทศได้ ร่วมแสดงความสามารถและเรียนรู้เสน่ห์ของการอ่านออกเสียงภาษาไทย โดยมี นักศึกษาต่างชาติ จากสถาบันต่างๆ เข้าร่วมโครงการกว่า 40 มหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศ โดย 2 นักศึกษาชาวต่างประเทศ ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สามารถคว้ารางวัลมาได้ ดังนี้ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่  Mr. Sai Swan Kan (กานต์)  จากประเทศเมียนมา นักศึกษาชั้นปีที่ 1 จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ชมผลงาน   https://youtu.be/qatxED84ZN0- รางวัลรางวัลชมเชย ได้แก่ Sai Kwan Khay (กรณ์) จากประเทศเมียนมา นักศึกษาชั้นปีที่ 1 จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ชมผลงาน  https://youtu.be/TyC15rOXPO0ผศ.ดร. ชนาพร ขันธบุตร  คณบดีคณะศิลปศาสตร์ กล่าวว่า "คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีหลักสูตรภาษาไทยสำหรับชาวต่างประเทศ ที่เปิดสอนนักศึกษาต่างประเทศ ทั้งนี้ ได้มีการส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ  ให้นักศึกษาชาวต่างประเทศอยู่เสมอ เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะภาษาไทยทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน  ซึ่งกิจกรรมนี้ ชี้ให้เห็นว่า นักศึกษาชาวต่างประเทศของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สามารถเรียนรู้การใช้ภาษา สืบสานและเข้าใจวัฒนธรรมไทย ได้เป็นที่ประจักษ์ และใช้ชีวิตในประเทศไทยได้อย่างมีความสุข” ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน
1 พฤษภาคม 2567
คณะวิศวะฯ ม.แม่โจ้ นำร่อง “ลดเผา ลดควัน แป๋งปุ๋ยบนดอย” ชูนวัตกรรมปุ๋ยหมักไม่พลิกกลับกองฯ จัดการเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เหลือทิ้งจากการเก็บเกี่ยวบนพื้นที่สูงลดการเผา ลดฝุ่น PM2.5
คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำโดย อาจารย์ ดร.แสนวสันต์ ยอดคำ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและกิจการพิเศษ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชนวัฒน์ นิทัศน์วิจิตร อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร  ร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ่อแก้ว ลัวฉือนี ต.บ่อแก้ว อ.สะเมิง จ. เชียงใหม่ ได้ดำเนินโครงการ ลดเผา ลดควัน แป๋งปุ๋ยบนดอย โดยได้นำร่องรับซื้อเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ ราคากิโลกรัมละ 1 บาท จำนวนกว่า 40,000 กิโลกรัม (40 ตัน) เพื่อนำมาทำปุ๋ยอินทรีย์ลดการเผา โดยใช้ วิธีการหมักปุ๋ยอินทรีย์แบบไม่พลิกกลับกอง วิธีวิศวกรรมแม่โจ้ 1 ที่เป็นนวัตกรรมองค์ความรู้ของอาจารย์ คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ให้เป็นพื้นที่ต้นแบบในการลดปัญหาการเผาเศษวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ (PM2.5) ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเผาที่ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อนนอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนมีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณภาพใช้ในพื้นที่ เพื่อลดต้นทุนการผลิต และสามารถต่อยอดจำหน่ายเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มวิสาหกิจ ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาการเผาตั้งแต่ต้นทาง และเป็นการสร้างมูลค่าจากเศษวัสดุเหลือทิ้ง ตามแนวทางโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย (BCG Model) และเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา นายวิโรจน์ ดวงสุวรรณ์นายอำเภอสะเมิง ได้เข้าเยี่ยมชมการดำเนินกิจกรรมการผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อลดการเผาของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ่อแก้ว ลัวฉือนี ต.บ่อแก้ว  อ.สะเมิง จ. เชียงใหม่ พร้อมทั้งในกำลังใจทีมงานให้การดำเนินโครงการประสบความสำเร็จอาจารย์ ดรแสนวสันต์ ยอดคำ รองคณบดีฯ คณะวิศวะกรรมฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีการหมักปุ๋ยอินทรีย์แบบไม่พลิกกลับกอง วิธีวิศวกรรมแม่โจ้ 1 เป็นนวัตกรรมที่ไม่ซับซ้อน เพียงแค่นำเศษพืชผลเหลือทิ้งทางการเกษตรมาหมักรวมกับมูลสัตว์ แล้วดูแลความชื้นในกองให้เหมาะสม ไม่ต้องพลิกกลับกองปุ๋ยให้ยุ่งยาก โดยใช้เวลาหมักเพียง 2 เดือนเท่านั้น  ซึ่งจากโครงการในครั้งนี้เราจะได้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์ตามเกณฑ์ของกรมวิชาการเกษตรประมาณ 60 ตัน มีมูลค่าประมาณ 480,000 บาท เกษตรกรสามารถนำไปใช้ในพื้นที่การเกษตรของตนเองเพื่อลดต้นทุน หรือนำไปจำหน่ายได้ โดยหวังว่าโครงการนี้จะเป็นพื้นที่ต้นแบบในการจัดการเศษวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร หรือจากการเก็บเกี่ยวเพื่อลดการเผา ลดฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ PM2.5) ได้อย่างเป็นรูปธรรม”สำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน หรือหน่วยงานต่างๆ ที่สนใจนวัตกรรมการหมักปุ๋ยอินทรีย์แบบไม่พลิกกลับกอง วิธีวิศวกรรมแม่โจ้ 1 สามารถติดต่อรายละเอียดได้ที่  คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทรศัพท์ 0-5387-5000 ถึง 15 ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน
8 มีนาคม 2567
เฮลั่น !! ม.แม่โจ้ คว้าแชมป์ งานกีฬาประเพณี4จอบแห่งชาติ ครั้งที่ 39 ครองถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำทีมนักกีฬาทักษะเกษตร จาก 3 คณะได้แก่ คณะผลิตกรรมการเกษตร คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี และ คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทักษะเกษตร และกีฬาสากล ในงานประเพณี 4 จอบแห่งชาติ ครั้งที่ 39 “เกษตรแดนศิลป์ ถิ่นเมืองพริบพรี” ซึ่งมีสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีการเรียนการสอนทางด้านการเกษตรจากทั่วประเทศ เข้าร่วมชิงชัย 12 สถาบัน ระหว่างวันที่ 18 - 21 พฤศจิกายน 2567 ณ มหาวิทยาลัยศิลปกร วิทยาเขต สารสนเทศเพชรบุรี ผลการแข่งขัน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับรางวัลชนะเลิศ ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โดย สามารถกวาดมาได้ 15 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญเงินกีฬาสาธิต รวม 20 เหรียญ จาก 21 ทักษะ ดังนี้1. การจัดสวนถาด = ทอง 2. การเชตแมลง = ทอง 3. การผลิตแผ่นประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการเกษตร = ทอง 4. การตอนสุกร = ทอง 5. การรีดเต้านมเทียม = ทอง 6. บรรจุพันธ์ปลา = ทอง 7. การประกวดโมเดลธุกิจนวัตกรรมการเกษตร = เงิน 8. การขยายพันธุ์พืช ติดตา-ต่อกิ่ง-ทาบกิ่ง = ทอง 9. การตรวจวัดสมบัติดินภาคสนาม และการใช้ข้อมูลดินเพื่อการจัดการดินแบบแม่นยำ = ทอง 10. การพูดส่งเสริมการเกษตร = ทอง 11. การตัดแต่งซากสัตว์ปีก = ทอง 12. การวินิจฉัยโรคพืช = เงิน 13. โครงงานทางการเกษตร = ทอง 14. การคำนวณอัตราการใช้ และพ่นสารกำจัดวัชพืช = ทอง 15. การทอดแห = ทอง 16. การตัดขวางชิ้นเนื้อเยื่อโรคพืช = เงิน (กีฬาสาธิต) 17. การกรอกวัสดุปลูกใส่ถุง = ทอง 18. การเข้าด้ามจอบเตรียมแปลง = ทอง 19. การวิเคราะห์อาหารสัตว์ = เงิน 20. การตอบปัญหาทางการเกษตร = เงินนอกจากนี้ นางสาวแสงเทียน ได้ตั้งใจนึก นักศึกษาคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี ยังได้รับรางวัล "คนดีศรีเกษตร" ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับนักศึกษาที่มีผลงานดีเด่นอย่างต่อเนื่อง หลากหลายและเป็นประจักษ์ในวงกว้าง ยกย่องผู้ที่มีความประพฤติดีเด่น และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักศึกษาในด้านการศึกษา คุณธรรม และความเสียสละ อีกด้วยทั้งนี้ งานประเพณี 4 จอบจัดขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนิสิตนักศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ ที่มีการเรียนการสอนด้านการเกษตร 4 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และทักษะทางวิชาการสาขาเกษตรศาสตร์ อันจะนำไปสู่การสร้างความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรของประเทศไทยในอนาคต โดยกำหนดให้มีการจัดงานขึ้นทุกปีอนึ่ง เมื่อครั้งที่มีการจัดงานประเพณี 4 จอบ ครั้งที่ 21 เมื่อปี 2546 ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นเจ้าภาพจัดงานได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี (พระอิสริยยศในขณะนั้น) พระราชทานถ้วยรางวัลคะแนนรวมในการแข่งขันกีฬาทักษะทางการเกษตร ถือเป็นกรุณาธิคุณแก่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกสถาบันเป็นล้นพ้น การแข่งขันในปีถัดจากนั้นมา สถาบันที่ได้รับรางวัลคะแนนรวมการแข่งขันกีฬาทักษะเกษตร จึงได้ครองถ้วยพระราชทานสืบต่อกันมา ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน
22 พฤศจิกายน 2567
“ในน้ำมีปลา ในนามีปู” ม.แม่โจ้ คว้ารางวัลชนะเลิศ Best of the Best ระดับประเทศ ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น 2567
“บ้านปูนา อ่องปูนา" ผลงานของ ทีม “ในน้ำมีปลา ในนามีปู” คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ คว้ารางวัล ชนะเลิศ ประเภท “กินดี” Best of the Best ระดับประเทศ ในโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น 2567 ซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารออมสินที่เปิดเวทีในนักศึกษาได้เรียนรู้ บูรณาการพัฒนาร่วมกับชุมชน เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากสู่ความยั่งยืน โดยในปีนี้มีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั่วประเทศกว่า 67 สถาบันการศึกษา ทั้งนี้ ได้เข้ารับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ นนทบุรี ทีม “ในน้ำมีปลา ในนามีปู” เป็นนักศึกษาคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ ได้แก่ นางสาวไอยเรศ เสาร์คำ , นายสรวิชญ์ จันทร์แดง , นางสาวไอซามี พงษ์จิระสกุลชัย , นางสาวเกวลิน กรแก้ว นางสาวภัสสิรา สิงห์อูป โดยมี อาจารย์ ดร.นงพงา แสงเจริญ , ผศ.ดร.ดารชาต์ เทียมเมือง และอาจารย์ ดร.วาธิณี อินทรพงษ์นุวัฒน์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา “บ้านปูนา อ่องปูนา" เป็นการทำงานร่วมกับวิสาหกิจชุมชนศูนย์เรียนรู้การเพาะเลี้ยงปูนาสันทราย ต.หนองแหย่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยนำความรู้มาศึกษาปัญหาเดิมของกลุ่มฯ ปรับปรุงพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ “อ่องปูนา แท้ 100 % สดใหม่ ส่งตรงจากฟาร์ม” ตามความต้องการของกลุ่มฯ ช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์อ่องปูนาให้มีอายุการเก็บนาน 1 ปี ในอุณหภูมิห้อง ทำให้อ่องปูนาซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือเป็นที่รู้จักมากขึ้น สามารถแข่งกับสินค้าอื่นๆ ได้ เพิ่มมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้เป็นที่สนใจ สะดวกต่อการรับประทาน และสามารถจัดจำหน่ายใน modern trade ได้ เป็นการส่งเสริมผลักดันให้มีคนในพื้นที่ได้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น เกิดการจ้างงานในชุมชน ลดปัญหาแรงงานย้ายถิ่นเข้าสู่เมืองหลวง และผลสุดท้ายคือประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้าน ผศ. ดร.อรพินธุ์ สฤษดิ์นำ ผู้รับผิดชอบโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “จากการเข้าร่วมโครงการฯ ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เห็นได้ว่า นักศึกษาเราประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศต่อเนื่อง 3 ปี ซ้อน คือปี 2565 ทีม เด็กโจ้อาสา พัฒนาธุรกิจชุมชน “น้ำพริกหมูฝอย” ประเภทกินดี คณะเศรษฐศาสตร์ปี 2566 ทีม ไพรรภัจน์ “สมุนไพรเพื่อสุขภาพ” ประเภทใช้ดี คณะผลิตกรรมการเกษตรปี 2567 ทีม ในน้ำมีปลา ในนามีปู “บ้านปูนา อ่องปูนา" ประเภท กินดี คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำถือเป็นการส่งเสริมให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 และทักษะการเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ ตามบริบทของแต่ละคณะ ที่มุ่งหวังจะพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น และสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP องค์กรชุมชน กลุ่มอาชีพในชุมชน ให้ก้าวไปสู่การเป็นธุรกิจที่มีความเข้มแข็ง เติบโตและยั่งยืน” ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน
11 พฤศจิกายน 2567
ขอเชิญร่วมระลึกถึง ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย อธิการบดีคนแรก คนต้นแบบลูกแม่โจ้
งานหนัก ไม่เคยฆ่าคนใครที่ตายเพราะทำงานหนัก ครูจะสร้างอนุสาวรีย์ ไว้ให้แม่โจ้"อมตะโอวาทศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย อธิการบดีคนแรก คนต้นแบบลูกแม่โจ้  ชาวแม่โจ้ ร่วม“ระลึกถึง ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย” วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567ณ ลานอนุสาวรีย์ฯ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ศิษย์เก่าแม่โจ้ รุ่น 1 อธิการบดีคนแรกของแม่โจ้ เป็นชาวจังหวัดแพร่ เกิดเมื่อวันที่ 12  มีนาคม 2459  หลังจากสอบไล่ได้มัธยมปีที่ 6 จากโรงเรียนพิริยาลัย จ.แพร่ก็ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่และย้ายมาเรียนที่โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมแม่โจ้ เมื่อปี 2477  ซึ่งถือเป็นรุ่น 1 รุ่นบุกเบิกและสร้างแม่โจ้เมื่อจบจากแม่โจ้ท่านสอบชิงทุนหลวงไปศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในฟิลิปปินส์จนจบปริญญาตรี ปี พ.ศ. 2484  จึงกลับมารับราชการเป็นอาจารย์ที่แม่โจ้ ตำแหน่งอาจารย์ผู้ปกครองนาน 6 ปี จากนั้นท่านไปลงสมัครผู้แทนราษฎร 2 ครั้ง  พอถึงปี พ.ศ. 2497 ท่านกลับเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ใหญ่ชั้นเอกของโรงเรียนเกษตรกรรมแม่โจ้ จวบจนกระทั่งได้เป็นอธิการบดีคนแรกของสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ถึง 2 สมัยศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ท่านเป็นนักประชาธิปไตยตัวอย่าง เป็นผู้มีเมตตาธรรม เป็นผู้ริเริ่มและพัฒนางานใหม่ๆเสมอ เป็นนักพัฒนาชนบท เป็นนักปกครองที่ดีเยี่ยม เป็นครู”ที่ประเสริฐ จากการทำงานหนักและผ่านประสบการณ์ต่างๆ ทำให้ชีวิตท่านแข็งแกร่ง ทรหดอดทน ไม่ท้อถอยและยอมแพ้ต่อปัญหา การดำเนินชีวิตที่ผ่านอุปสรรคมาได้ทำให้เกิดปรัชญาความจริงของชีวิต  ท่านได้ตระหนักถึงการเรียนและฝึกอบรมนักเรียนเกษตรต้องให้มีความอดทน ไม่ท้อถอย จึงจะสู้งานได้ทุกอย่างเป็นการหล่อหลอมนิสัยให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถเผชิญกับอุปสรรคและสามารถแก้ปัญหาลุล่วงได้ต่อไปจึงนับเป็นช่วงสำคัญของการพัฒนาแม่โจ้สู่มิติใหม่ นักเรียนต้องมีความพร้อมและต้องการเรียนเกษตรจริง ๆ ซึ่งท่านได้กล่าวแสดงความยินดีต่อนักศึกษาที่ผ่านการทดสอบว่าการเรียนเกษตรที่แม่โจ้นี้ ต้องฝึกความทรหดสู้งานทุกอย่างได้ ไม่ท้อถอย เพื่อจะได้เป็นลูกแม่โจ้ที่อดทน เข้มแข็ง ไม่กลัวงานหนัก งานหนักไม่เคยฆ่าคน ใครตายเพราะงานหนัก ครูจะสร้างอนุสาวรีย์ไว้ให้ที่แม่โจ้” ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต  บุญศรีวังซ้ายได้ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่  30 ตุลาคม 2527  บรรดาศิษย์เก่าแม่โจ้ สมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จึงได้กำหนดวันที่ 30 ตุลาคม ให้เป็น “วันวิภาต บุญศรี วังซ้าย” เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีที่ท่านได้สร้างและพัฒนาแม่โจ้ให้เจริญ เป็นผู้มีคุณูปการต่อวงการอาชีวเกษตรของประเทศไทย ผู้เป็นต้นแบบนักต่อสู้เอาชนะอุปสรรค และปลดแอกข้อจำกัดของวงการอาชีวเกษตรในอดีต เป็นคนต้นแบบลูกแม่โจ้ ตามปรัชญางานหนักไม่เคยฆ่าคน”อันเป็นคติพจน์ประจำใจของ ลูกแม่โจ้จวบจนปัจจุบันขอเรียนเชิญคณาจารย์  นักศึกษา บุคลากร และศิษย์แม่โจ้ทุกรุ่นร่วมงานระลึกถึง ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย”ในวันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567ตั้งแต่เวลา 07.30 น. เป็นต้นไป  ณ  ลานอนุสาวรีย์ ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้ายหน้าสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ หมายเหตุ : การแต่งกายชุดพื้นเมือง หรือชุดสุภาพ
28 ตุลาคม 2567
คณะกรรมการส่งเสริมมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ร่วมขับเคลื่อนประเทศไทย มุ่งสู่ Net Zero 2065
มหาวิทยาลัยแม่โจ้  และคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสัมมนาคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ครั้งที่ 9 “บทบาทคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย มุ่งสู่ Net Zero 2065” ระหว่างวันที่ 1 – 3 พฤศจิกายน  2567  ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และโรงแรมแชงกรี-ลา  จ.เชียงใหม่ การประชุมสัมมนาฯ ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมระดมความคิดของคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยจาก 148 แห่ง ทั่วประเทศ ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทย สู่ Net Zero ผสานกลยุทธ์การวิจัย การเรียนการสอนและบริหารจัดการวิชาการเข้ากับแนวคิด Green University  รวมถึงการปรับตัวสานกลยุทธ์ธุรกิจ สู่ Net  Zero เพื่อรับมือกับข้อกำหนดทางการค้าและเงื่อนไขตลาดทุนโลก ได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมทั้ง มอบนโยบายที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยเพื่อมุ่งสู่ Net Zero ได้อย่างเป็นรูปธรรม และยังได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิร่วมบรรยายพิเศษ และร่วมเวทีเสวนา ในประเด็นที่น่าสนใจ  ได้แก่ -  เรื่อง“มหาวิทยาลัยแม่โจ้กับการขับเคลื่อนประเทศไทย สู่ Net Zero” , ผสานกลยุทธ์การวิจัย การเรียนการสอนและบริหารจัดการวิชาการเข้ากับแนวคิด Green University การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ โดย รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล  ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้   - เรื่อง “Climate Change วิกฤตของโลก และทางออกของเรา” ความรู้และงานวิจัยเกี่ยวกับวิกฤติโลกร้อน ความร่วมมือระหว่างประเทศ และนวัตกรรมที่จะนำพาโลกสู่สภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น และแนวทางที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทยในการมุ่งสู่ Net Zero โดย รองศาสตราจารย์ ดร.เศรษฐ์ สัมภัตตะกุล รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักบริการวิชาการ (UNISERV) และหัวหน้าหน่วยวิจัยเพื่อการจัดการพลังงานและเศรษฐนิเวศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ - เรื่อง “ทศวรรษแห่งการปรับตัว สานกลยุทธ์ธุรกิจสู่ Net Zero” กลยุทธ์ธุรกิจยุคใหม่เพื่อรับมือกับข้อกำหนดทางการค้า และเงื่อนไขตลาดทุนโลกและมุมมองเกี่ยวกับการพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจในทศวรรษที่ผ่านมาและในอนาคต โดย นายธีรพงศ์  จันศิริ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)การเสวนา เรื่อง “บทบาทของคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยกับการพัฒนามหาวิทยาลัย” โดยผู้แทนคณะกรรมการส่งเสริมจากทุกกลุ่มสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมการประชุมสัมมนานอกจากนั้น  จะมีการเยี่ยมชมศึกษาดูงานโครงการต่างๆ ของมหาวิทยาลัย  ฟาร์มมหาวิทยาลัย โรงเรือนไส้เดือนดินกำจัดขยะอินทรีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย การผลิตปุ๋ยอินทรีย์  การผลิตกัญชาอินทรีย์เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์  ศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ และเกษตรอัจฉริยะ Smart Fishery พร้อมทั้งเยี่ยมชมศึกษาดูงาน  บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน)  บริษัท ปลูกผักเพระรักแม่โ จำกัด (มหาชน) (โอ้กะจู๋) และ บริษัท กรีนไดมอนด์ จำกัด (บุญสมฟาร์มสาหร่ายเกลียวทอง)  ซึ่งเป็นภาคีภาคธุรกิจที่มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้  รวมถึงการศึกษาดูงานด้านศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ล้านนา และด้านหัตถกรรมและเศรษฐกิจท้องถิ่น  ดร.วรพงศ์ นันทาภิวัฒน์ ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “ขอเชิญชวนคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยทุกท่านเข้าร่วมการประชุมสัมมนาในครั้งนี้ เพราะคณะกรรมการส่งเสริมฯ คือผู้เกี่ยวข้องในวงการธุรกิจและการศึกษา เราจะได้มีส่วนร่วมในการหารือและหาข้อแนะนำในการที่จะทำให้ประเทศเราบรรลุการเป็น Net Zero ในปี 2065 ได้”  การประชุมสัมมนาคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ครั้งที่ 9 นอกจากเผยแพร่ภาพลักษณ์และสร้างชื่อเสียงที่ดีให้แก่มหาวิทยาลัย และจังหวัดเชียงใหม่ แล้ว ยังเป็นกิจกรรมการสร้างความสัมพันธ์และส่งเสริมเครือข่ายของมหาวิทยาลัยทุกภาคส่วนให้สามารถพัฒนาขีดความสามารถที่เกิดประโยชน์ต่อสังคม เศรษฐกิจและชุมชนในทุกมิติต่อไป
21 ตุลาคม 2567
ม.แม่โจ้ จัดงานแสดงกตเวทิตาจิตผู้เกษียณอายุ ประจำปี 2567 “กตเวทิตาจิต ร้อยดวงใจสานสายใยชาวแม่โจ้”
มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดงานแสดงกตเวทิตาจิตผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2567  “กตเวทิตาจิต ร้อยดวงใจสานสายใยชาวแม่โจ้” เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ ตระหนักถึงความสำคัญและความเสียสละของบุคลากรทุกท่าน และร่วมน้อมคารวะต่อผู้อาวุโสที่ครบวาระเกษียณอายุ ผู้สร้างคุณูปการต่อองค์กรและต่อสังคม  ในวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2567  เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป  ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ  มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งในปีนี้ มีจำนวน 31 ท่าน  แบ่งเป็น ข้าราชการ  จำนวน 4 รายรองศาสตราจารย์ ดร.วิจิตรา  แดงปรก ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์  สังกัดคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กิตตินุช  ชุลิกาวิทย์ ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์  สังกัดคณะบริหารธุรกิจผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เสาวลักษณ์  ชายทวีป ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดคณะศิลปศาสตร์นางศรีกุล  นันทะชมภู ตำแหน่ง นักวิชาการคอมพิวเตอร์เชี่ยวชาญ  สังกัดสำนักงานมหาวิทยาลัย ลูกจ้างประจำ  จำนวน 2 รายนายศรชัย  ยาวิชัย  ตำแหน่ง ช่างฝีมือโรงงาน ระดับ ช 4 สังกัดงานระบบสาธารณูปโภค กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม สำนักงานมหาวิทยาลัยนายสมใจ  ปงหาญ ตำแหน่ง พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดเบา ระดับ ช 2 สังกัดฟาร์มมหาวิทยาลัย   พนักงานมหาวิทยาลัย  จำนวน 22 รายรองศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ์  ศรีเงินยวง ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ สังกัดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบสิ่งแวดล้อม  ตำแหน่งบริหาร รองอธิการบดีผู้ช่วยศาสตราจารย์พาวิน  มะโนชัย ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดคณะผลิตกรรมการเกษตร ตำแหน่งบริหาร รองอธิการบดีอาจารย์ ดร.ชัชวิจก์  ถนอมถิ่น ตำแหน่ง อาจารย์ สังกัดคณะผลิตกรรมการเกษตรผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุรีย์วัลย์  เมฆกมล ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดคณะผลิตกรรมการเกษตร   5. นางพิกุล นิลวาส ตำแหน่ง ตำแหน่ง หัวหน้างานคลังและพัสดุ สังกัดงานคลังและพัสดุ สำนักงานคณบดี คณะผลิตกรรมการเกษตร คณะผลิตกรรมการเกษตร   6. รองศาสตราจารย์ ดร.ยงยุทธ  ข้ามสี่ ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ สังกัดคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร   7. อาจารย์ ดร.ภานาถ  แสงเจริญรัตน์ ตำแหน่ง อาจารย์ สังกัดคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร   8. อาจารย์ชัช  พชรธรรมกุล ตำแหน่ง อาจารย์ สังกัดคณะพัฒนาการท่องเที่ยว   9. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมธี  วงศ์วีระพันธุ์ ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดคณะศิลปศาสตร์  10.นางสาวรดาพร ทองมา ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานคณบดีวิทยาลัยนานาชาติ สังกัดสำนักงานคณบดี วิทยาลัยนานาชาติ  วิทยาลัยนานาชาติ  11. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกพิชญ์  ชินะข่าย ตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สังกัดวิทยาลัยบริหารศาสตร์  12.นางผ่องรักษ์ ยศเดช ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปชำนาญการ สังกัดงานอำนวยการ  กองพัฒนานักศึกษา สำนักงานมหาวิทยาลัย  13. นางสุพรรณ์ ดวงบาล ตำแหน่ง นักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ สังกัดงานบริหารการเงิน 1 กองคลัง สำนักงานมหาวิทยาลัย  14. นายพิจักษณ์ อนุสรณ์รัชดา ตำแหน่ง นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ สังกัดงานการกีฬา กองพัฒนานักศึกษา สำนักงานมหาวิทยาลัย  15. ดร.ชาญวิทยายุทธ์ อินทร์แก้ว ตำแหน่ง หัวหน้างานการกีฬา สังกัดงานการกีฬา กองพัฒนานักศึกษา สำนักงานมหาวิทยาลัย  16. นายประศาสน์ ก้องสมุทร ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองตรวจสอบภายใน สังกัดกองตรวจสอบภายใน สำนักงานมหาวิทยาลัย  17. นางสาวรุ่งทิวา เลขะวัฒนะ ตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหารปฏิบัติงาน สังกัดงานอำนวยการ กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม สำนักงานมหาวิทยาลัย  18. นางสาวนวลนิตย์ ปิ่นนิกร ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองเลขานุการสภามหาวิทยาลัย สังกัดกองเลขานุการ สภามหาวิทยาลัย สำนักงานสภามหาวิทยาลัย  19. นางสาวพรินทร บุญเรือง ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองบริหารงานสำนักบริหารและพัฒนาวิชาการ  สังกัดกองบริหารงานสำนักบริหารและพัฒนาวิชาการ สำนักบริหารและพัฒนาวิชาการ  20. นายยุทธนา ชำนาญ ตำแหน่ง พนักงานขับรถปฏิบัติงาน สังกัดงานบริหารและธุรการ กองบริหารงานสำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร  21. นางสาวรังสิมา อัมพวัน ตำแหน่ง นักวิจัยชำนาญการพิเศษ  สังกัดงานปรับปรุงและขยายพันธุ์พืชและสัตว์ กองบริหารงานบริการวิชาการ สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร  22.นางจิณาภา ใคร้มา ตำแหน่ง นักเอกสารสนเทศชำนาญการพิเศษ สังกัดฝ่ายพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สำนักหอสมุดพนักงานส่วนงาน  จำนวน 3 รายนางอัมพร ปาวิน ตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร สังกัดงานอำนวยการ กองพัฒนานักศึกษา สำนักงานมหาวิทยาลัยนายเชาวรัตน์ แสงคำ ตำแหน่ง ช่างเทคนิค สังกัดงานการกีฬา กองพัฒนานักศึกษา สำนักงานมหาวิทยาลัยสิบตรีสมจิตร์  พรหมมา ตำแหน่ง พนักงานขับรถ สังกัดงานบริหารและธุรการ สำนักงานคณบดี วิทยาลัยบริหารศาสตร์ วิทยาลัยบริหารศาสตร์ โอกาสนี้  ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล  ทองมา  อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวขอบคุณและอวยพร  พร้อมทั้งมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับผู้เกษียณอายุ ตามกำหนดการ ดังนี้ เวลา 13.00 นลงทะเบียนรับหนังสือที่ระลึกเวลา 13.30 นผู้ร่วมงานพร้อมกัน ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้เวลา 13.45 นพิธีกรแจ้งกำหนดการเวลา 13.50 นชมการแสดง จาก กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมเวลา 14.00 นนำเสนอ Presentation ประวัติและผลงานของผู้เกษียณอายุเวลา 14.10 นรองอธิการบดีรองศาสตราจารย์จักรพงษ์  พิมพ์พิมลกล่าวรายงานเวลา 14.20 นอธิการบดีมอบโล่และประกาศเกียรติคุณแด่ผู้เกษียณเวลา 15.20 นอธิการบดีกล่าวขอบคุณและอวยพรแด่ผู้เกษียณอายุเวลา 15.30 น.    ผู้แทนผู้เกษียณอายุกล่าวแสดงความรู้สึกผู้ช่วยศาสตราจารย์พาวิน  มะโนชัย)เวลา 15.40 นบันทึกภาพร่วมกันเวลา 16.30 นเสร็จพิธี ขอเชิญชาวแม่โจ้ร่วมแสดงกตเวทิตาจิตผู้เกษียณอายุ ในวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ณ  ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  กองบริหารทรัพยากรบุคคล  สำนักงานมหาวิทยาลัย โทร. 0 5387 3133หมายเหตุ 1. ส่วนงาน/หน่วยงานต่าง ๆ มอบของที่ระลึกแด่ผู้เกษียณอายุ ก่อนหรือหลังพิธีการตามอัธยาศัยสำหรับผู้เกษียณอายุท่านใดต้องการไฟล์ Presentation และไฟล์รูปภาพในงานดังกล่าว                    ให้ติดต่อขอรับได้ที่ งานทะเบียนประวัติ กองบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานมหาวิทยาลัยการแต่งกาย ชุดผ้าไทย หรือชุดพื้นเมือง
9 กันยายน 2567
ทีม Agro-Power ม.แม่โจ้ เปลี่ยนขยะเศษอาหารเป็นทุนชีวิต คว้า 2 รางวัลระดับประเทศ จากมูลนิธิรากแก้ว
ทีม Agro-Power มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตัวแทนทีมจากภาคเหนือ  คว้า 2 รางวัล จากการร่วมจัดแสดงผลงานและนำเสนอ โครงการพัฒนาที่ยั่งยืนของนิสิตนักศึกษา ระดับประเทศ ประจำปี 2567 หรือ Rakkaew Foundation National Exposition University Sustainability Showcase  จัดโดย มูลนิธิรากแก้ว เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศได้แสดงผลของโครงการที่ได้ร่วมดำเนินงานกับชุมชน นำไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนกับชุมชนมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีทีมจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ 26 ทีม  ระหว่างวันที่ 23-24 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์  กรุงเทพมหานครสำหรับ ทีม Agro-Power นำเสนอโครงการภายใต้ชื่อ "พลังเกษตรเปลี่ยนขยะเศษอาหารเป็นทุนชีวิต"  เป็นผลงานที่มุ่งเน้นแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน  โดยนำเศษอาหารเหลือทิ้งจากโรงพยาบาล จากชุมชน มาเลี้ยงหนอนแมลงวันทหารดำซึ่งมีคุณสมบัติย่อยขยะสดได้ดี แล้วนำตัวหนอนที่มีโปรตีนสูงไปเป็นอาหารสัตว์ เลี้ยงเปิด เลี้ยงไก่ นำมูลของหนอนไปเป็นวัสดุปลูกพืชผัก จากนั้นจึงเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ได้มาใช้ในชีวิตประจำวัน และยังสร้างรายได้เพิ่มต่อไป  ซึ่งโครงการนี้ได้สร้างความประทับใจด้วยแนวทางการเปลี่ยนแปลงขยะเศษอาหารให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการและผู้ร่วมงานทั้งในด้านนวัตกรรมและผลกระทบต่อสังคม  ทำให้ทีม Agro-Power จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สามารถคว้ารางวัลเหรียญเงิน ประเภท โครงการใหม่ประจำปี 2567 และ รางวัลโครงการดีเด่นประจำภาคเหนือ (Outstanding Project Regional North)ทีม Agro-Power  เป็นการรวมตัวของนักศึกษา 2 คณะ มีสมาชิก 6 คน   ได้แก่ นายณัฐวัตร แซ่เซียว คณะผลิตกรรมการเกษตรนางสาวจุฑามาศ เกิดโต คณะผลิตกรรมการเกษตรนายธนพล ต๋าคำ คณะผลิตกรรมการเกษตรนายเอกพล แก้วบุญเรือง คณะผลิตกรรมการเกษตรนายรัตติเทพ เครืออินทร์ วิทยาลัยพลังงานทดแทนนางสาวอรนิชา ทิพย์ชัย วิทยาลัยพลังงานทดแทนโดยมี  อาจารย์ ดร.วงค์พันธ์ พรหมวงศ์  และ นายพิชิตพงษ์ ไชยโยชน์  เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาอาจารย์ ดร.วงค์พันธ์ พรหมวงศ์ อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการฯ กล่าวว่า "รางวัลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถและความมุ่งมั่นของนักศึกษาในการพัฒนาสังคม กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงผลงานและศักยภาพของเยาวชนไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในสังคมไทยในอนาคต นอกจากนี้ โครงการยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs ซึ่งมหาวิทยาลัยแม่โจ้มีแผนจะต่อยอดและขยายผลโครงการนี้ไปยังชุมชนต่าง ๆ ในอนาคตต่อไป" ฝ่ายสื่อสารองค์กร  ม.แม่โจ้ // รายงาน
29 สิงหาคม 2567
งานวิจัยแม่โจ้ สู่ สินค้าคุณภาพ โชว์งาน อว.แฟร์ 2024 พร้อมจัดจำหน่าย
 ศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมทางการเกษตรสำหรับบัณฑิตผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ (Agri Inno) นำทีมผู้ประกอบการภายใต้ความร่วมมือของศูนย์ Agri inno มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ได้ส่งเสริม ผลักดันผู้ประกอบการที่ได้รับการสนับสนุนการนำงานวิจัยออกไปใช้ประโยชน์ (Licensing)จากมหาวิทยาลัยออกสู่เชิงพาณิชย์ และงานที่ได้รับทุนสนับสนุนผ่านกลไกรายภูมิภาค Regional Innovation Business Platform ของ NIA  เข้าร่วมงานมหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์ อววน. เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนด้วยพลังสหวิทยาการ หรือ งาน อว.แฟร์  2024  ที่จัดขึ้นโดยกระทรวง อว. ผสานพลังความร่วมมือกับทุกภาคส่วนจัดงาน  ระหว่างวันที่ 22-28 ก.ค.2567  ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  กรุงเทพฯรศ.ดร.ดวงพร  อมรเลิศพิศาล  หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมทางการเกษตรสำหรับบัณฑิตผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า  “ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมจัดแสดงผลงานและนวัตกรรม ในงาน อว.แฟร์ 2024  มีผลิตภัณฑ์ที่มาจากผลงานวิจัยของนักวิจัยมหาวิทยาลัยแม่โจ้  4 ผลงาน ได้แก่ผลิตภัณฑ์ ImuneUp  ของ  บริษัท BIST Inno Reform เป็นผลิตภัณฑ์จากเห็ดมีสรรพคุณทางยาทำหน้าที่เสริมภูมิคุ้มกันในระดับเซลล์ (CELL based Immune Boosting Ingredient) ป้องกันโรคกลุ่ม NCDs ผ่านทดสอบระสิทธิภาพและความปลอดภัยในมนุษย์ ผลิตภัณฑ์แบรนด์ Vetnova  ของ บริษัท Ani Pproduct   นวัตกรรมเกี่ยวกับสัตว์  ได้แก่ DipDip ฟิล์มเคลือบจุ่มเต้านมโคจากธรรมชาติ และ Petty สเปรย์ป้องกัน และกำจัดปรสิตภายนอก ในสัตว์เลี้ยง โดยมีส่วนผสมจากสมุนไพร และใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีสีเขียว (Green technology) เพื่อลดการใช้สารเคมี และเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันที่ยาวนาน ผลิตภัณฑ์ Pre, Pro, Postbiotics แบรนด์ Bioblend ของ บริษัท All About Extract ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพลำไส้ มีส่วนผสมสำคัญจากสารประกอบเชิงหน้าที่เสริมภูมิคุ้มกัน(Functional Ingredients) ได้แก่ พรีไบโอติกส์ โพรไบโอติกส์ โพสไบโอติกส์ ส่งเสริมสุขภาวะที่ดีทั้งร่ายกายและจิตใจ ผลิตภัณฑ์น้ำหอมแบรนด์  JOH ของ บริษัท BSN Life นวัตกรรมน้ำหอมผสานน้ำมันสกัดจาก Crocodile Oil  ทำหน้าที่เป็นสารตรึงกลิ่นหอมขึ้นให้กับน้ำหอมของ JOH  ทำให้ความหอมติดทนยาวนานพร้อมบำรุงผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแม้ผิวบอบบางนอกจากนั้น ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการต่อยอดโดยผู้ประกอบการที่ร่วมทุนและผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการที่ ศูนย์ Agri inno แม่โจ้ ช่วยพัฒนาโครงการนวัตกรรมให้กับผู้ประกอบการโดยนำงานวิจัยของนักวิจัยที่มีศักยภาพมาต่อยอดเชิงพาณิชย์ ร่วมจัดแสดงในงานนี้อีกมากกว่า 10 ราย  ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมจัดแสดง ในงาน อ.ว.แฟร์ 2024  ครั้งนี้ ได้รับความสนใจ และการตอบรับเป็นอย่างดี  ถือเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการที่นำงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้ อย่างเป็นรูปธรรม” ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน
6 สิงหาคม 2567