แม่โจ้สนองพระราชปณิธาน กษัตริย์เกษตร ยุทธศาสตร์เกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ (โดยมี กาดแม่โจ้ 2477 เป็นตลาดกลางของ เกษตรกรเครือข่ายเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัย กลุ่มนักศึกษาโครงการปลูกผักแลกค่าเทอม พบผู้บริโภคโดยตรง)

ความเป็นมา

            สนามวังซ้ายในอดีต คือสนามฟุตบอล เป็นสนามที่นักเรียนแม่โจ้ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ มาหลายรุ่น อย่างยาวนาน และเมื่อปี 2527 แม่โจ้มีสนามกีฬาอินทนิล ซึ่งเป็นสนามแข่งขันกีฬา ในการแข่งขันกีฬาต่างๆ ของคณาจารย์และนักศึกษา ต่อมาเมื่อปี 2559 มีนักศึกษาเพิ่มจำนวนมากขึ้น มหาวิทยาลัยจึงได้สร้างสนามฟุตบอล แห่งที่สองขึ้นมา บริเวณหลังอัฒจรรย์ไม่มีหลังคาใกล้กับสนามอินทนิล เพื่อรองรับความต้องการออกกำลังกาย แข่งกีฬา ของทั้งบุคลากรและนักศึกษาแม่โจ้ การปลูกสร้างพื้นที่เหล่านี้ได้ผ่านการกลั่นกรองจาก คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ หลายต่อหลายชุด เพื่อคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดแก่นักศึกษารุ่นใหม่ๆที่จะเข้ามาศึกษาเล่าเรียน

มหาวิทยาลัยมีการใช้ประโยชน์กลุ่มพื้นที่ play ground อาคารคุณพระช่วงฯ อาคารพัฒนาวิสัยทัศน์ สนามวังซ้าย สนามอินทนิล สนามฟุตบอลแห่งที่สอง สนามฟุตซอล สนามวอลเลย์ สถานที่ออกกำลังกายและจัดกิจกรรมนักศึกษา บุคลากร         

อาคารคุณพระช่วง มีหน้ามุก อยู่สองด้าน คือด้านตะวันออก หันหน้าออกถนน เชียงใหม่-พร้าว หน้า อาคารมีพระพิรุณ เป็นเทพที่ลูกแม่โจ้และชาวเกษตร สักการะบูชา อีกด้านคือด้านตะวันออก ปัจจุบันหน้ามุกด้านตะวันออกเป็นสถานที่ตั้ง อนุสาวรีย์คุณพระช่วงเกษตรศิลปการ ด้านการพัฒนาภูมิทัศน์รอบอนุสาวรีย์ มหาวิทยาลัย ได้ ประชุมกรรมการฝ่ายกายภาพ และกรรมการชุดต่างๆ มีมติ เปิดหน้าอาคารเพื่อความสง่างามของสิ่งแวดล้อมรอบอนุสาวรีย์ ปรับพื้นที่ ปลูกหญ้า ย้ายต้นไม้ ต้นปาล์ม บางต้นไปปลูกรักษาไว้ยังจุดที่เหมาะสม จนเกิดความสง่างาม สมแก่การเป็นสถานที่แห่งความทรงจำแก่ผู้ก่อตั้งสถาบันการศึกษาแห่งนี้ เป็นสถานที่ให้ลูกแม่โจ้ ศิษย์เก่า นักศึกษาบุคลากล ได้แสดงความเคารพ ระลึกถึงพระคุณท่านตั้งแต่การตั้ง โรงเรียนประถมกสิกรรม พ.ศ.2477

สนามวังซ้าย ในปัจจุบัน เป็นสถานที่สำคัญต่อมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นห้องทดลองและบริการวิชาการเพื่อ สนองพระราชปณิธาน กษัตริย์เกษตร รวมถึงยุทธศาสตร์เกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ของประเทศ ซึ่งมีที่มาจากพัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงของการอุดมศึกษา การเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง การเรียนการสอนที่สามารถแปลงไปสู่การปฏิบัติได้  คณะทำงานจึงได้ได้วางแผนประชุมหารือ กันมาหลายเดือน จนเกิด กลยุทธ์ กาดแม่โจ้ 2477 เพื่อสืบสานพระราชปณิธานทฤษฎีใหม่ ส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนนอกชั้นเรียนควบคู่กับการเรียนทฤษฎี รวมถึงภารกิจด้านบริการวิชาการแก่เกษตรกรรายย่อยของมหาวิทยาลัย จึงใช้ โดมแก้วอินทรีย์ เพื่อเป็น สถานที่ของตลาดผลผลิตเกษตรปลอดภัยที่ผู้ซื้อพบผู้ขายได้โดยตรง

 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้ “กาดแม่โจ้ 2477” นี้ เป็นแหล่งในการกระจายผลิตผลเกษตรอินทรีย์จากแหล่งปลูกที่เชื่อมั่นได้ถึงความปลอดภัย และยังได้รับการดูแลผลผลิตจาก คณาจารย์ นักวิจัย และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาในโครงการ “ปลูกผักแลกค่าเทอม” ที่จะใช้กาด แม่ โจ้ 2477 นี้เป็นแหล่งในการขายผลผลิตของตน นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเชื่องโยง บรูณาการคณะต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ในอนาคต ถือเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ที่ได้ลงมือปฏิบัติจริง และก่อให้เกิดเป็นอาชีพที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคตได้ ซึ่ง กาดแม่โจ้  2477 เริ่มเปิดขายอย่างเป็นทางการทุกศุกร์และเสาร์ เวลา 09.00-18.00 น. ณ โดมแก้วอินทรีย์ (Organic glass house) มหาวิทยาลัยแม่โจ้

สำหรับผู้ที่สนใจมาเลือกซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์ ณ  กาดแม่โจ้ 2477 เลือกซื้อผลผลิตที่ปลอดสารพิษและเป็นผลผลิตเกษตรอินทรีย์ 100 % รวมถึงจะได้พบเจอสินค้าที่เป็นนวัตกรรม โดยมาตรฐานการตรวจสอบความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง www.king9.mju.ac.th หรือโทรศัพท์ 053 87570