ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
MJU Corporate Communication Center

“มหาวิทยาลัยแม่โจ้” สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีรากฐานทางการเกษตรเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ  มีประวัติศาสตร์ทางการศึกษายาวนาน  นับจากปี 2477 ถึงวันนี้มีอายุครบ  85 ปี ได้ผลิตบัณฑิตออกไปรับใช้สังคมและประเทศชาติจำนวนมาก ด้วยปณิธานที่มุ่งมั่นพัฒนาบัณฑิตสู่ความเป็นผู้อุดมด้วยปัญญา อดทน สู้งาน เป็นผู้มีคุณธรรม และจริยธรรมเพื่อความเจริญรุ่งเรืองวัฒนาของสังคมไทยที่มีการเกษตรเป็นรากฐาน และอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย คือ “การพัฒนานักศึกษาให้เป็นนักปฏิบัติทันต่อการเปลี่ยนแปลงและเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชา”   นอกจากด้านการผลิตบัณฑิตแล้ว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ยังได้สนับสนุนและส่งเสริมด้านการวิจัยที่ต่อยอดองค์ความรู้จนเกิดเป็นรูปธรรม เป็นที่ยอมรับในเวทีระดับชาติและนานาชาติ สามารถนำไปช่วยเหลือ พัฒนาภาคการเกษตรของไทยได้อย่างแท้จริง จนได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครองให้บุตรหลานเลือกเข้ามาศึกษาต่อ ณ สถาบันการศึกษาแห่งนี้ เรียนรู้การใช้ชีวิตในบ้านหลังที่สองที่พร้อมจะให้ทั้งวิชาการและวิชาชีวิตแก่ศิษย์แม่โจ้ทุกคน

ปีการศึกษา 2562 นักศึกษาใหม่จากทั่วทุกสารทิศ ทั้งแม่โจ้-แพร่ฯ และแม่โจ้-ชุมพร  กำลังจะก้าวเข้าสู่รั้วอินทนิล ในฐานะอินทนิล ช่อที่ 84 ที่พร้อมจะเบ่งบานและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งในปีนี้ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้มีการจัดเตรียมกิจกรรมต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวก และเตรียมความพร้อมพัฒนาศักยภาพนักศึกษาใหม่ ประจำปี 2562 หลากหลายกิจกรรม เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2562  มีรายละเอียดดังนี้

วันที่ 17 มิถุนายน 2562  เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป  โครงการรับน้องสู่บ้านหลังที่ 2  ได้จัดเตรียมรถคอยรับ-ส่ง อำนวยความสะดวกให้กับน้องๆ และพ่อแม่ผู้ปกครอง  ณ สถานีรถไฟเชียงใหม่ และสถานีขนส่งเชียงใหม่(อาเขต) เดินทางสู่มหาวิทยาลัยแม่โจ้  และให้น้องๆ ได้รายงานตัวเข้าหอพักนักศึกษาที่ทางมหาวิทยาลัยจัดเตรียมไว้ให้ต่อไป

วันที่ 17 มิถุนายน 2562  เวลา 11.30 น.เป็นต้นไป โครงการผู้บริหารพบปะผู้ปกครองนักศึกษาใหม่ เพื่อให้ผู้ปกครองได้รู้จักและรับทราบถึงนโยบายของมหาวิทยาลัยและแนวทางการใช้ชีวิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยตลอดหลักสูตร รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง  ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ

วันที่ 18-19 มิถุนายน 2562  เวลา 08.30 น.เป็นต้นไป  นักศึกษาหลักสูตร 4 และ 5 ปี และหลักสูตร 4 ปี เทียบเข้าเรียน(2 ปี) รายงานตัวเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาใหม่ด้วยตัวเองอีกครั้ง ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ , ตรวจร่างกาย ณ อาคารอำนวย ยศสุข (รายละเอียดตามเอกสารแจ้ง)

วันที่ 20 มิถุนายน  2562  เวลา 08.00 - 12.00 น. โครงการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่(ทุกคน ทุกหลักสูตร) ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ  และในเวลา 13.00 - 16.30 น. ปฐมนิเทศนักศึกษาตามคณะที่นักศึกษาสังกัด

วันที่ 21 มิถุนายน 2562 เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป นักศึกษาทุกคนเข้าอบรมโครงการเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรม ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ และสลับฐานเข้าสอบวัดมาตรฐานทางด้านภาษาอังกฤษ ณ อาคารเรียนรวมแม่โจ้ 70 ปี , อาคารเรียนรวมแม่โจ้ 80 ปี

วันที่ 22 มิถุนายน 2562 เวลา 18.00-21.00 น. นักศึกษาใหม่ทุกคน ทุกวิทยาเขต จะเข้าร่วมงานเลี้ยงขันโตกต้อนรับน้องใหม่ อินทนิลช่อที่ 84 “สู่รั้วอินทนิล” ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ

วันที่ 23 มิถุนายน 2562 เวลา 05.00 น. กิจกรรมทำบุญตักบาตรประเพณีรับน้องใหม่อินทนิลช่อที่ 84  เพื่อความเป็นสิริมงคล ในการเริ่มใช้ชีวิตการเป็นนักศึกษา  ณ  ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ

วันที่  24 มิถุนายน 2562  เวลา 09.30 เป็นต้นไป   นักศึกษาใหม่จะมีการแบ่งกลุ่ม เข้าร่วมโครงการ ฐานปรัชญา “ลูกแม่โจ้  เลิศน้ำใจ  วินัยดี  เชิดชูประเพณี สามัคคี อาวุโส”  ตามฐานต่างๆ โดยมีวิทยากรประจำฐานคอยให้ความรู้ เพื่อเป็นการทำความรู้จักมหาวิทยาลัยแม่โจ้ให้มากขึ้น

วันที่ 25 มิถุนายน  2562  เวลา 08.๓0 น.เป็นต้นไป  นักศึกษาใหม่เข้าร่วมกิจกรรม “เดินฐานตามรอยคุณพระช่วงเกษตรศิลปการ” บิดาการเกษตรแม่โจ้ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกและก่อตั้งแม่โจ้ จนได้ชื่อว่า “ไม่มีพระช่วงฯ ไม่มีแม่โจ้”

 วันที่ 26 มิถุนายน  2562   เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป  นักศึกษาใหม่เข้าร่วมกิจกรรม “แม่โจ้จิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อม” (ภายใน/ภายนอก) เพื่อให้น้องๆ ได้มีส่วนร่วมในการดูแล พัฒนามหาวิทยาลัย  สังคม และชุมชน

วันที่  27 มิถุนายน  2562  รายงานตัว ป.โท ป.เอก ณ คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร  และตั้งแต่เวลา  13.30 น.เป็นต้นไป กิจกรรมกีฬาสานสัมพันธ์ น้อง-พี่  เพื่อสร้างความรัก ความสามัคคี  โดยใช้กีฬาเป็นสื่อกลาง ณ ศูนย์กีฬากาญเฉลิมพระเกียรติ

วันที่  28 มิถุนายน  2562  เวลา 05.30  น.  นักศึกษาใหม่ร่วมโครงการประเพณีเดินวิ่งการกุศล แม่โจ้- สันทราย  เพื่อเข้าคารวะนายอำเภอสันทราย  และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ รวมทั้งฝากเนื้อฝากตัวกับพี่น้องชาวอำเภอสันทราย โดยมีชาวอำเภอสันทรายมาคอยต้อนรับอย่างอบอุ่น

วันที่ 29  มิถุนายน  2562  เวลา  06.00 น.  โครงการเจิมหน้าผากรับขวัญอินทนิล ช่อที่ 84 โดยมีรุ่นพี่  ศิษย์เก่าจากทั่วประเทศเดินทางมาร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น  ณ  บริเวณอนุสาวรีย์พระพิรุณทรงนาค มหาวิทยาลัยแม่โจ้  จากนั้นมีพิธีวางพวงมาลาคารวะอนุสาวรีย์คุณพระช่วง เกษตรศิลปการ บิดาการเกษตรแม่โจ้ พร้อมรับฟังโอวาทจากรักษาการแทนอธิการบดี

สำหรับในช่วงเย็นของวันเดียวกันนั้น ตั้งแต่เวลา 17.00 น. จะมีพิธีบายศรีสู่ขวัญต้อนรับน้องใหม่อินทนิลช่อที่ 84  พิธีกรรมทางล้านนา เพื่อความเป็นสิริมงคลและสร้างขวัญกำลังใจให้กับน้องๆ  ณ  ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ

ทุกกิจกรรมที่ทางมหาวิทยาลัยได้จัดเตรียมไว้ก็เพื่อให้นักศึกษาใหม่ อินทนิลช่อที่ 84 ได้พัฒนาศักยภาพ รู้จักการปรับตัวในการใช้ชีวิตการเป็นนักศึกษาเพื่อทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดตลอดหลักสูตรจนกว่าจะสำเร็จการศึกษา แม้อาจมีอุปสรรคต่างๆ  ก็ต้องฝ่าฟันไปให้ได้  ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข  นี่คือเป้าหมายสำคัญของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพออกไปรับใช้สังคม.

เพราะแม่โจ้  คือ แม่โจ้  ถึงแม้กาลเวลาจะล่วงผ่านมาจนมีอายุ 85 ปี บรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่ ลูกแม่โจ้ ก็ยังคงกอดคอ ประคอง ช่วยเหลือ ผลักดัน รักและผูกพัน ดูแลซึ่งกันและกันตลอดไป ช่วยกันฟูมฟักอินทนิลช่อใหม่ให้เติบใหญ่อย่างมั่นคง

มหาวิทยาลัยแม่โจ้ : มหาวิทยาลัยแห่งชีวิต

ปรับปรุงข้อมูล : 14/6/2562 16:51:28     ที่มา : ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 865

กลุ่มข่าวสาร : ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวล่าสุด

ม.แม่โจ้ คว้า Gold Medal Award งาน 2024 International Innovation & Invention Competition @Taipei, TAIWAN
นวัตกรรม “ Unlocking Aromas and Flavors with an Innovative Cold Brew Coffee : ปลดล๊อคกลิ่นและรสชาติด้วยนวัตกรรมการผลิตกาแฟสกัดเย็น” ผลงานของ ผศ. ดร.ชุติมา คงจรูญ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ และ นางสาวกัญญ์วรา ทรวงแก้ว นักศึกษาสาขาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับรางวัล Gold Medal Award ในงาน 2024 International Innovation and Invention Competition ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ทั้งนี้ ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าร่วมประกวดจากสมาคมส่งเสริมนวัตกรรมและการประดิษฐ์ไทย (Atip Thailand)Unlocking Aromas and Flavors with an Innovative Cold Brew Coffee เป็นนวัตกรรมการปรับปรุงกระบวนการสกัดเย็นแบบใหม่ สามารถช่วยลดเวลาในการสกัดจากปกติ 12-24 ชั่วโมง เหลือเพียง 30 นาที อีกทั้งยังใช้อัตราส่วนของน้ำและกาแฟน้อยกว่าวิธีการทำกาแฟสกัดเย็นโดยวิธีทั่วไป โดยยังคงคุณสมบัติที่มีประโยชน์จากเมล็ดกาแฟทั้งปริมาณคาเฟอีน สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ รวมถึงฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ได้รสชาติกาแฟที่นุ่มละมุน ขมน้อย แฝงด้วยกลิ่นช็อกโกแลต คาราเมล และถั่วที่เข้มข้นกว่าเดิม เพิ่มคุณลักษณะของรสชาติที่ซับซ้อน เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับทั้งผู้ที่ดื่มกาแฟทั่วไปและผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ ซึ่งงานวิจัยนี้ได้ยื่นจดอนุสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน
29 พฤศจิกายน 2567     |      225
เฮลั่น !! ม.แม่โจ้ คว้าแชมป์ งานกีฬาประเพณี4จอบแห่งชาติ ครั้งที่ 39 ครองถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำทีมนักกีฬาทักษะเกษตร จาก 3 คณะได้แก่ คณะผลิตกรรมการเกษตร คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี และ คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทักษะเกษตร และกีฬาสากล ในงานประเพณี 4 จอบแห่งชาติ ครั้งที่ 39 “เกษตรแดนศิลป์ ถิ่นเมืองพริบพรี” ซึ่งมีสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีการเรียนการสอนทางด้านการเกษตรจากทั่วประเทศ เข้าร่วมชิงชัย 12 สถาบัน ระหว่างวันที่ 18 - 21 พฤศจิกายน 2567 ณ มหาวิทยาลัยศิลปกร วิทยาเขต สารสนเทศเพชรบุรี ผลการแข่งขัน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับรางวัลชนะเลิศ ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โดย สามารถกวาดมาได้ 15 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญเงินกีฬาสาธิต รวม 20 เหรียญ จาก 21 ทักษะ ดังนี้1. การจัดสวนถาด = ทอง 2. การเชตแมลง = ทอง 3. การผลิตแผ่นประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการเกษตร = ทอง 4. การตอนสุกร = ทอง 5. การรีดเต้านมเทียม = ทอง 6. บรรจุพันธ์ปลา = ทอง 7. การประกวดโมเดลธุกิจนวัตกรรมการเกษตร = เงิน 8. การขยายพันธุ์พืช ติดตา-ต่อกิ่ง-ทาบกิ่ง = ทอง 9. การตรวจวัดสมบัติดินภาคสนาม และการใช้ข้อมูลดินเพื่อการจัดการดินแบบแม่นยำ = ทอง 10. การพูดส่งเสริมการเกษตร = ทอง 11. การตัดแต่งซากสัตว์ปีก = ทอง 12. การวินิจฉัยโรคพืช = เงิน 13. โครงงานทางการเกษตร = ทอง 14. การคำนวณอัตราการใช้ และพ่นสารกำจัดวัชพืช = ทอง 15. การทอดแห = ทอง 16. การตัดขวางชิ้นเนื้อเยื่อโรคพืช = เงิน (กีฬาสาธิต) 17. การกรอกวัสดุปลูกใส่ถุง = ทอง 18. การเข้าด้ามจอบเตรียมแปลง = ทอง 19. การวิเคราะห์อาหารสัตว์ = เงิน 20. การตอบปัญหาทางการเกษตร = เงินนอกจากนี้ นางสาวแสงเทียน ได้ตั้งใจนึก นักศึกษาคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี ยังได้รับรางวัล "คนดีศรีเกษตร" ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับนักศึกษาที่มีผลงานดีเด่นอย่างต่อเนื่อง หลากหลายและเป็นประจักษ์ในวงกว้าง ยกย่องผู้ที่มีความประพฤติดีเด่น และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักศึกษาในด้านการศึกษา คุณธรรม และความเสียสละ อีกด้วยทั้งนี้ งานประเพณี 4 จอบจัดขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนิสิตนักศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ ที่มีการเรียนการสอนด้านการเกษตร 4 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และทักษะทางวิชาการสาขาเกษตรศาสตร์ อันจะนำไปสู่การสร้างความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรของประเทศไทยในอนาคต โดยกำหนดให้มีการจัดงานขึ้นทุกปีอนึ่ง เมื่อครั้งที่มีการจัดงานประเพณี 4 จอบ ครั้งที่ 21 เมื่อปี 2546 ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นเจ้าภาพจัดงานได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี (พระอิสริยยศในขณะนั้น) พระราชทานถ้วยรางวัลคะแนนรวมในการแข่งขันกีฬาทักษะทางการเกษตร ถือเป็นกรุณาธิคุณแก่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกสถาบันเป็นล้นพ้น การแข่งขันในปีถัดจากนั้นมา สถาบันที่ได้รับรางวัลคะแนนรวมการแข่งขันกีฬาทักษะเกษตร จึงได้ครองถ้วยพระราชทานสืบต่อกันมา ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน
22 พฤศจิกายน 2567     |      378
“ในน้ำมีปลา ในนามีปู” ม.แม่โจ้ คว้ารางวัลชนะเลิศ Best of the Best ระดับประเทศ ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น 2567
“บ้านปูนา อ่องปูนา" ผลงานของ ทีม “ในน้ำมีปลา ในนามีปู” คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ คว้ารางวัล ชนะเลิศ ประเภท “กินดี” Best of the Best ระดับประเทศ ในโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น 2567 ซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารออมสินที่เปิดเวทีในนักศึกษาได้เรียนรู้ บูรณาการพัฒนาร่วมกับชุมชน เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากสู่ความยั่งยืน โดยในปีนี้มีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั่วประเทศกว่า 67 สถาบันการศึกษา ทั้งนี้ ได้เข้ารับโล่รางวัล พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ นนทบุรี ทีม “ในน้ำมีปลา ในนามีปู” เป็นนักศึกษาคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ ได้แก่ นางสาวไอยเรศ เสาร์คำ , นายสรวิชญ์ จันทร์แดง , นางสาวไอซามี พงษ์จิระสกุลชัย , นางสาวเกวลิน กรแก้ว นางสาวภัสสิรา สิงห์อูป โดยมี อาจารย์ ดร.นงพงา แสงเจริญ , ผศ.ดร.ดารชาต์ เทียมเมือง และอาจารย์ ดร.วาธิณี อินทรพงษ์นุวัฒน์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา “บ้านปูนา อ่องปูนา" เป็นการทำงานร่วมกับวิสาหกิจชุมชนศูนย์เรียนรู้การเพาะเลี้ยงปูนาสันทราย ต.หนองแหย่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยนำความรู้มาศึกษาปัญหาเดิมของกลุ่มฯ ปรับปรุงพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ “อ่องปูนา แท้ 100 % สดใหม่ ส่งตรงจากฟาร์ม” ตามความต้องการของกลุ่มฯ ช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์อ่องปูนาให้มีอายุการเก็บนาน 1 ปี ในอุณหภูมิห้อง ทำให้อ่องปูนาซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือเป็นที่รู้จักมากขึ้น สามารถแข่งกับสินค้าอื่นๆ ได้ เพิ่มมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้เป็นที่สนใจ สะดวกต่อการรับประทาน และสามารถจัดจำหน่ายใน modern trade ได้ เป็นการส่งเสริมผลักดันให้มีคนในพื้นที่ได้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น เกิดการจ้างงานในชุมชน ลดปัญหาแรงงานย้ายถิ่นเข้าสู่เมืองหลวง และผลสุดท้ายคือประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้าน ผศ. ดร.อรพินธุ์ สฤษดิ์นำ ผู้รับผิดชอบโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “จากการเข้าร่วมโครงการฯ ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เห็นได้ว่า นักศึกษาเราประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศต่อเนื่อง 3 ปี ซ้อน คือปี 2565 ทีม เด็กโจ้อาสา พัฒนาธุรกิจชุมชน “น้ำพริกหมูฝอย” ประเภทกินดี คณะเศรษฐศาสตร์ปี 2566 ทีม ไพรรภัจน์ “สมุนไพรเพื่อสุขภาพ” ประเภทใช้ดี คณะผลิตกรรมการเกษตรปี 2567 ทีม ในน้ำมีปลา ในนามีปู “บ้านปูนา อ่องปูนา" ประเภท กินดี คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำถือเป็นการส่งเสริมให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 และทักษะการเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ ตามบริบทของแต่ละคณะ ที่มุ่งหวังจะพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น และสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP องค์กรชุมชน กลุ่มอาชีพในชุมชน ให้ก้าวไปสู่การเป็นธุรกิจที่มีความเข้มแข็ง เติบโตและยั่งยืน” ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน
11 พฤศจิกายน 2567     |      326
ขอเชิญร่วมระลึกถึง ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย อธิการบดีคนแรก คนต้นแบบลูกแม่โจ้
งานหนัก ไม่เคยฆ่าคนใครที่ตายเพราะทำงานหนัก ครูจะสร้างอนุสาวรีย์ ไว้ให้แม่โจ้"อมตะโอวาทศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย อธิการบดีคนแรก คนต้นแบบลูกแม่โจ้  ชาวแม่โจ้ ร่วม“ระลึกถึง ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย” วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567ณ ลานอนุสาวรีย์ฯ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ศิษย์เก่าแม่โจ้ รุ่น 1 อธิการบดีคนแรกของแม่โจ้ เป็นชาวจังหวัดแพร่ เกิดเมื่อวันที่ 12  มีนาคม 2459  หลังจากสอบไล่ได้มัธยมปีที่ 6 จากโรงเรียนพิริยาลัย จ.แพร่ก็ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่และย้ายมาเรียนที่โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมแม่โจ้ เมื่อปี 2477  ซึ่งถือเป็นรุ่น 1 รุ่นบุกเบิกและสร้างแม่โจ้เมื่อจบจากแม่โจ้ท่านสอบชิงทุนหลวงไปศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในฟิลิปปินส์จนจบปริญญาตรี ปี พ.ศ. 2484  จึงกลับมารับราชการเป็นอาจารย์ที่แม่โจ้ ตำแหน่งอาจารย์ผู้ปกครองนาน 6 ปี จากนั้นท่านไปลงสมัครผู้แทนราษฎร 2 ครั้ง  พอถึงปี พ.ศ. 2497 ท่านกลับเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ใหญ่ชั้นเอกของโรงเรียนเกษตรกรรมแม่โจ้ จวบจนกระทั่งได้เป็นอธิการบดีคนแรกของสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ถึง 2 สมัยศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ท่านเป็นนักประชาธิปไตยตัวอย่าง เป็นผู้มีเมตตาธรรม เป็นผู้ริเริ่มและพัฒนางานใหม่ๆเสมอ เป็นนักพัฒนาชนบท เป็นนักปกครองที่ดีเยี่ยม เป็นครู”ที่ประเสริฐ จากการทำงานหนักและผ่านประสบการณ์ต่างๆ ทำให้ชีวิตท่านแข็งแกร่ง ทรหดอดทน ไม่ท้อถอยและยอมแพ้ต่อปัญหา การดำเนินชีวิตที่ผ่านอุปสรรคมาได้ทำให้เกิดปรัชญาความจริงของชีวิต  ท่านได้ตระหนักถึงการเรียนและฝึกอบรมนักเรียนเกษตรต้องให้มีความอดทน ไม่ท้อถอย จึงจะสู้งานได้ทุกอย่างเป็นการหล่อหลอมนิสัยให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถเผชิญกับอุปสรรคและสามารถแก้ปัญหาลุล่วงได้ต่อไปจึงนับเป็นช่วงสำคัญของการพัฒนาแม่โจ้สู่มิติใหม่ นักเรียนต้องมีความพร้อมและต้องการเรียนเกษตรจริง ๆ ซึ่งท่านได้กล่าวแสดงความยินดีต่อนักศึกษาที่ผ่านการทดสอบว่าการเรียนเกษตรที่แม่โจ้นี้ ต้องฝึกความทรหดสู้งานทุกอย่างได้ ไม่ท้อถอย เพื่อจะได้เป็นลูกแม่โจ้ที่อดทน เข้มแข็ง ไม่กลัวงานหนัก งานหนักไม่เคยฆ่าคน ใครตายเพราะงานหนัก ครูจะสร้างอนุสาวรีย์ไว้ให้ที่แม่โจ้” ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต  บุญศรีวังซ้ายได้ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่  30 ตุลาคม 2527  บรรดาศิษย์เก่าแม่โจ้ สมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จึงได้กำหนดวันที่ 30 ตุลาคม ให้เป็น “วันวิภาต บุญศรี วังซ้าย” เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีที่ท่านได้สร้างและพัฒนาแม่โจ้ให้เจริญ เป็นผู้มีคุณูปการต่อวงการอาชีวเกษตรของประเทศไทย ผู้เป็นต้นแบบนักต่อสู้เอาชนะอุปสรรค และปลดแอกข้อจำกัดของวงการอาชีวเกษตรในอดีต เป็นคนต้นแบบลูกแม่โจ้ ตามปรัชญางานหนักไม่เคยฆ่าคน”อันเป็นคติพจน์ประจำใจของ ลูกแม่โจ้จวบจนปัจจุบันขอเรียนเชิญคณาจารย์  นักศึกษา บุคลากร และศิษย์แม่โจ้ทุกรุ่นร่วมงานระลึกถึง ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย”ในวันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567ตั้งแต่เวลา 07.30 น. เป็นต้นไป  ณ  ลานอนุสาวรีย์ ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้ายหน้าสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ หมายเหตุ : การแต่งกายชุดพื้นเมือง หรือชุดสุภาพ
28 ตุลาคม 2567     |      175