ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
MJU Corporate Communication Center

มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดการประชุมสัมมนาวิชาการเพื่อส่งเสริมและพัฒนาเครือข่ายมหาวิทยาลัยและส่วนราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน เรื่อง “พลังอุดมศึกษากับการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน” โดยได้รับเกียรติจากพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานและบรรยายพิเศษ เรื่อง “การพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน เพื่อขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน”   และได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เข้ามอบนโยบายและบรรยายพิเศษ เรื่อง “การปฏิรูปอุดมศึกษาในวิถีชีวิตใหม่ (New nomal) ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563  พร้อมกันนี้ ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสามัญที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย พร้อมการประชุมใหญ่สามัญสมาคม ทปอ.ครั้งที่ 4/2563 ในวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563 ณ  ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่

รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล  ทองมา  อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2477 จะมีอายุครบ 100 ปี ใน พ.ศ.2577  ปัจจุบันเปิดการเรียนการสอน ทั้งระดับปริญญาตรี ปริญโท ปริญญาเอก กว่า 100 หลักสูตร โดยได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการเพื่อให้มีทิศทางการพัฒนาไปสู่เป้าหมายตามกรอบที่วางไว้  ซึ่งการแบ่งกลุ่มสถาบันอุดมศึกษาตามจุดเน้นยุทธศาสตร์ที่สอดคล้องกับทิศทางก ารพัฒนาประเทศ มหาวิทยาลัย  แม่โจ้ จัดอยุ่ในกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มการพัฒนาเทคโนโลยีและส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม ที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรม สร้างผู้ประกอบการและต่อยอดสู่ SMEs สตาร์ทอัพ เพื่อไปพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศต่อไป

ตามที่รัฐบาลมีนโยบายในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวมของประเทศให้ไปในทิศทางเดียวกันมหาวิทยาลัยจึงได้จัดการสัมมนาวิชาการเพื่อส่งเสริมและพัฒนาเครือข่ายมหาวิทยาลัย และส่วนราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน เรื่อง “พลังอุดมศึกษากับการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน” เพื่อถ่ายทอดนโยบายการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน สู่การปฏิบัติจริงในระดับพื้นที่ผ่านการร่วมระดมความคิดเห็น  แลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ระหว่างผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง

ในครั้งนี้ มหาวิทยาลัยยังได้จัดแสดงผลงานวิจัยแห่งชาติ และระดับนานาชาติ พ.ศ.2555-2563 แบ่งเป็น กลุ่มยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้ สู่ปีที่ 100 , กลุ่มผลงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมเด่น , กลุ่มอาหารและยา, กลุ่มโครงการสนับสนุนขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เช่น โครงการจ้างงาน  โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย โครงการ non-degree โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสู้ภัย COVID-19  เช่น โครงการแม่โจ้ส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวทั่วไทยสู้ภัย COVID-19  ซึ่งมหาวิทยาลัยได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ  “ผู้สนับสนุนการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ-รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” จากกระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 นอกจากนั้นยังมีการแสดงผลงานที่ได้รับความร่วมมือกับเครือข่ายด้านการเกษตร โครงการสนองงานพระราชดำริ นิทรรศการด้านเกษตรอินทรีย์และเกษตรธรรมชาติ รวมทั้งสิ้นกว่า 80 ผลงาน  และทุกท่านจะศึกษาดูงานพื้นที่ต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพระราชดำริ พื้นที่ฟาร์มเกษตรและแปรรูปเพิ่มมูลค่าอย่างครบวงจรนำไปสู่เครือข่ายการทำงานในการขับเคลื่อนการปฏิรูปอุดมศึกษาและพัฒนาประเทศไทยไปด้วยกันให้ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม”

ผู้เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา ผู้บริหารส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่  ลำพูน แม่ฮ่องสอน และผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการพัฒนานักบริหารมหาวิทยาลัยสายวิชาการระดับสูง(นบม.) รวมจำนวน 200 คน ซึ่งหลังการสัมมนาในครั้งนี้ มหาวิทยาลัยจะได้นำข้อสรุปที่ได้ ถ่ายทอดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ในการประชุมสามัญที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยและการประชุมใหญ่สามัญสมาคมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 4/2563 ต่อไป

ด้าน นายเจริญฤทธิ์  สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้ประชุมเพื่อขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ร่วมกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด ในการติดตาม รับฟัง และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนในจังหวัด และจัดให้มีการตอบสนองความต้องการของประชาชนในจังหวัดให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม รวดเร็วและทันเหตุการณ์ ในกรณีที่เกินขีดความสามารถหรือศักยภาพของจังหวัดให้รายงานรัฐมนตรีที่รับผิดชอบในระดับพื้นที่จังหวัด บูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วนในพื้นที่อย่างเป็นระบบ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงแนวคิดวิถีชีวิตใหม่และการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน อีกทั้งยังสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชน ให้เห็นความจำเป็นในการร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ตลอดจนติดตามประเมินผลการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน เพื่อสนองต่อความต้องการของประชาชน และได้ร่วมกันหารือในเรื่องการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว และการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยบูรณาการการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเ อกชน และภาคประชาชน ทั้งการสร้างกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวภายในประเทศ พร้อมทั้งมาตรการการรองรับในด้านต่างๆ ในขณะเดียวกันยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด ดังนั้นจังหวัดเชียงใหม่พร้อมรับนโยบายและถ่ายทอดสู่การปฏิบัติและร่วมขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน” 

สำหรับการประชุมสามัญที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) และการประชุมใหญ่สามัญสมาคม  ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 4/2563  มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ในวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563 โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง  ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุม ซึ่งจะมีอธิการบดี รองอธิการบดีอีกแห่งละ 2 ท่าน จาก 34 สถาบันสมาชิกเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้  นอกจากนั้นยังได้มีการดำเนินการเลือกตั้งประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยในคราวเดียวกันอีกด้วย.

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม >>> https://erp.mju.ac.th/informationDetail.aspx?newsId=3822

ปรับปรุงข้อมูล : 6/11/2563 16:43:44     ที่มา : ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 1125

กลุ่มข่าวสาร : ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวล่าสุด

ม.แม่โจ้มุ่งสู่สากลติดอันดับโลก World University Rankings - SCImago Institutions Rankings
           มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้รับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของโลกโดย Times Higher Education World University Rankings 2025  เป็นอันดับ 9 ของประเทศไทย โดยเป็นอันดับที่ 3 จาก 10 มหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพด้านการวิจัยที่ดีที่สุดในประเทศไทยปี 2025  และเป็นอันดับที่ 9  ของมหาวิทยาลัยไทย อันดับที่ 401-475 ของโลก ด้านเกษตรศาสตร์และป่าไม้  ซึ่งเป็นผลมาจากผลงานโดดเด่นจาก 5 ตัวชี้วัดในการจัดอันดับมหาวิทยาลัย ได้แก่ การเรียนการสอน  การจัดการระบบนิเวศการวิจัย  คุณภาพการวิจัย รายได้จากผลงานลิขสิทธิ์นวัตกรรม และความเป็นสากลนานาชาติ          ล่าสุด SCImago Institutions Rankings (SIR) ได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาทั่วโลก ประจำปี 2025 โดย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อยู่ในอันดับ 13  จาก 15 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในไทย ปี 2025 และเป็นอันดับที่ 11 จาก 15 มหาวิทยาลัยไทยที่โดดเด่นด้าน Chemistry โดยปีนี้มีเพียง 33 มหาวิทยาลัยของไทยเท่านั้นที่ได้รับการจัดอันดับจาก SIR ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และการจัดอันดับในแต่ละครั้งจะบ่งบอกถึงความก้าวหน้า และการพัฒนาในกระบวนการ “การวิจัย” องค์ความรู้ด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการวิจัยและการพัฒนา ซึ่งจะทำให้ต่อยอดไปสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับสังคมโลกได้อีกด้วย           นอกจากนั้น มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ยังติดอันดับที่ 12 ของมหาวิทยาลัยไทย อันดับ top 401 – 600 ของโลก มหาวิทยาลัยที่มีการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) หรือ “THE Impact Rankings” ปี 2024  อีกทั้ง ได้รับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียว เป็นอันดับที่ 11 ของประเทศและอันดับที่ 143 ของโลก  และยังอยู่ในระดับ Top 10 ของมหาวิทยาลัยรัฐที่มีผู้สนใจเข้าศึกษาต่อมาโดยตลอด ปัจจุบันมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีนักศึกษาประมาณ 20,000 คน  มีการจัดการเรียนการสอน 15 คณะ 3 วิทยาลัย  ทั้งหลักสูตรปกติและหลักสูตรนานาชาติ  และมีคณะที่ทำการเปิดสอนล่าสุด ได้แก่ คณะพยาบาลศาสตร์ และคณะสัตว-แพทยศาสตร์  และจากการจัดอันดับ มหาวิทยาลัยสุขภาวะ Healthy University Rating  โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุน  การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มหาวิทยาลัยแม่โจ้  ติด 1 ใน 10 ที่ได้ระดับ 4-5 ดาว “มหาวิทยาลัยสุขภาวะ Healthy University Rating 2023  ด้วยการประเมินจาก 42 ตัวชี้วัดด้านนโยบาย ระบบและโครงสร้างพื้นฐานการลดความเสี่ยงและปัญหาสุขภาพ และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ มุ่งสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยส่งเสริมสุขภาพ” ในระดับนานาชาติ            รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล  ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “ในปี 2025  Maejo Next Step มหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมก้าวสู่ยุทธศาสตร์ Intelligence Well – being AgricultureIWA)  การเกษตรอัจฉริยะเพื่อสุขภาวะที่ดี  จะผสมผสาน Local Wisdom Innovation ก่อให้เกิดนวัตกรรมต่อยอด เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยในอนาคต และมีการจัดวิพากย์ศาสตร์ด้านการเกษตรหลักที่เป็นจุดเน้นในการพัฒนามหาวิทยาลัย ด้วยเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพการศึกษา การวิจัยและนวัตกรรม บัณฑิตผู้ประกอบการ  การจัดการทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ และการส่งเสริมสุขภาพสร้างเครือข่ายความร่วมมืออย่างยั่งยืนต่อไป” ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ //รายงาน
21 มีนาคม 2568     |      281
คณะผลิตฯ  ม.แม่โจ้ อบรมเพาะเลี้ยง "ไข่ผำ" นำร่องส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์”
ฝ่ายกิจการพิเศษและหารายได้ คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ "การเพาะเลี้ยงและการใช้ประโยชน์จากไข่ผำเพื่อเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์" รุ่นที่ 1 โดยมีเกษตรกรและผู้ประกอบการจากหลายจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมอย่างคึกคัก เมื่อวันที่ วันที่ 8  มีนาคม 2568   ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้โครงการนี้มุ่งเน้นให้ความรู้ด้านเทคนิคการเพาะเลี้ยงไข่ผำในระบบอินทรีย์ แนวทางการตลาด และการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เพื่อต่อยอดการสร้างมูลค่าเพิ่ม และพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรกรรมสมัยใหม่ โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้  ได้แก่ อาจารย์ ดร.ศุภชัย สุทธิเจริญ และ ว่าที่ ร.ต. ณัฏฐ์ศรันย์ ศรีกิจ จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม  และ ผศ.ดร.จอมสุดา ดวงวงษา จากคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้อาจารย์ ดร.วงค์พันธ์  พรหมวงศ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและหารายได้ คณะผลิตกรรมการเกษตร ในฐานะผู้จัดโครงการฯ กล่าวว่า  “โครงการนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านไข่ผำจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมไข่ผำให้เติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ พร้อมทั้งศึกษาตัวอย่างแนวทางการนำไข่ผำไปใช้เชิงพาณิชย์  ซึ่งด้วยศักยภาพของไข่ผำในฐานะโปรตีนทางเลือก และโอกาสในการขยายตัวของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ   การอบรมเครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้ “ไข่ผำ” กลายเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่มีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหารและเกษตรกรรมในอนาคต เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเครือข่ายผู้เพาะเลี้ยงไข่ผำและนักพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้  ที่สามารถนำไปพัฒนาการผลิตและการตลาด เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตอย่างเป็นรูปธรรม และช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ไข่ผำให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดระดับสากล" สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลรายละเอียดการฝึกอบรมเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ ฝ่ายกิจการพิเศษและหารายได้ คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทร. 0 5387 5600 ในวันและเวลาทำการ
11 มีนาคม 2568     |      409
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ หนุนความร่วมมือภาคธุรกิจ พัฒนาเกษตรและปศุสัตว์ไทยด้วยนวัตกรรม
วันที่ 6 มีนาคม 2568 – มหาวิทยาลัยแม่โจ้ สนับสนุนความร่วมมือระหว่าง บริษัท อนิ โปรดัก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท spin-off จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ บริษัท นิวทริเมด จำกัด ในพิธีลงนามความร่วมมือเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดและความต้องการของผู้บริโภค โอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมด้วยผู้บริหารมหาวิทยาลัยร่วมเป็นสักขีพยาน ในพิธีลงนามความร่วมมือทางวืชาการในครั้งนี้ โดยมี คุณพรพิมล บุญโคตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อนิ โปรดัก จำกัด และ คุณวิสูตร วิสุทธิไกรสีห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิวทริเมด จำกัด เป็นผู้แทนลงนาม ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัย ชั้น 5 สำนักงานมกาวิทยาลัยแม่โจ้ความร่วมมือนี้มุ่งเน้นการบูรณาการ เทคโนโลยีและงานวิจัยสู่ภาคเกษตรและปศุสัตว์ โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้จะร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนานวัตกรรมที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมเกษตรไทย เช่น ผลิตภัณฑ์จุ่มเคลือบเต้านมโคจากธรรมชาติ. , ผลิตภัณฑ์ป้องกันแมลงในสัตว์เลี้ยง. และอีกหลายผลิตภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนา. คาดว่า จะช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิต และเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศได้
7 มีนาคม 2568     |      260
พิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ครั้งที่ 47 ประจำปีการศึกษา 2566-2567
               ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี  กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประจำปีการศึกษา 2566-2567 (ครั้งที่ 47) ในวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมีบัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต จำนวน 2217 ราย แยกเป็น ระดับบัณฑิตศึกษา (ป.โท - ป.เอก) จำนวน 116 ราย   ระดับปริญญาตรี 2,099 ราย และพระบัณฑิต จำนวน 2 รูป เข้าร่วมพิธี ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่    ในการนี้  สภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีมติอนุมัติปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ให้แก่ผู้สร้างคุณประโยชน์ต่อองค์กรและสังคมประเทศชาติมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี และศิษย์เก่าแม่โจ้ดีเด่น เพื่อเข้ารับพระราชทานโล่ศิษย์เก่าแม่โจ้ดีเด่น ประจำปี 2567 รวมจำนวน 10 ราย ดังนี้ผู้ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จำนวน 4 ราย  ได้แก่    1. นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน  (แม่โจ้ รุ่น 50)รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์   2.  พระวิสุทธิวัชราภรณ์  พระราชาคณะชั้นสามัญ , รองเจ้าคณะอำเภอแม่ริม, เจ้าอาวาสวัดลัฏฐิวัน (วัดพระนอนขอนตาลศักดิ์สิทธิ์)              ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชานวัตกรรมการจัดการชุมชน   3. นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ (แม่โจ้ รุ่น 56)รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมรัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์  สาขาวิชารัฐศาสตร์ นายศุภสิทธิ์ เขื่อนแก้ว  (แม่โจ้ รุ่น 64)เจ้าของฟาร์มโชคอนันต์ฟาร์ม เชียงราย                   ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ ผู้ได้รับโล่ศิษย์เก่าแม่โจ้ดีเด่น ประจำปี 2567 จำนวน  6 ราย ได้แก่    1. นายสมบัติ นิ่มเงิน       ศิษย์เก่าแม่โจ้รุ่น 48  อดีตรองกรรมการผู้จัตการอาวุโส บริษัท เจริญแพลนเตชั่น จำกัด ประเทศกัมพูชา  , บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ้วส์ จำกัด ประเทศไทย 2. นายรณชัย บุญรอด    ศิษย์เก่แม่โจ้รุ่น 54  ผู้จัดการฝ่ายการตลาด(แผนกอาหารสัตว์)  บริษัท อาหารสยาม (2513) จำกัดผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทองเลียนบัวจูม ศิษย์เก่าแม่โจ้ รุ่นที่ 55  อาจารย์ประจำคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยแม่โจ้  4. นายอุดมศักดิ์ เฉลิมพนาพันธ์ ศิษย์เก่าแม่โจ้ รุ่นที่ 56 เจ้าของร้านเสือการเกษตร 5. นายมะนิต สารุณา ศิษย์เก่าแม่โจ้ รุ่น 58  ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนา ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครพนม 6. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุริยจรัส เตชะตันมีนสกุล ศิษย์เก่าแม่โจ้ รุ่น 59 รักษาการแทนรองอธอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้            สำหรับ บัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต ให้มารายงานตัวเพื่อยืนยันตัวตน และเข้าร่วมการฝึกซ้อม ตามกำหนดการดังนี้วันเสาร์ที่     15 กุมภาพันธ์  2568    รายงานตัวยืนยันตัวตน   ณ  อาคารอำนวย  ยศสุข  มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วันอาทิตย์ที่  16 กุมภาพันธ์  2568    ฝึกซ่อมย่อย ณ คณะ/วิทยาลัย ที่สังกัดวันจันทร์ที่    17 กุมภาพันธ์  2568    ฝึกซ้อมใหญ่ ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ทั้งนี้ สามารถศึกษาข้อมูลคู่มือการฝึกซ้อมและ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.education.mju.ac.th/graduate/
7 กุมภาพันธ์ 2568     |      2313