ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
MJU Corporate Communication Center

ไม่มีพระช่วงฯ...ไม่มีแม่โจ้”

หากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 88 ปี ก่อนจะเป็นมหาวิทยาลัยแม่โจ้ในปัจจุบัน

 14 สิงหาคม 2476 คุณพระช่วงเกษตรศิลปการ ยืมม้าจากนายอำเภอสันทราย บุกเข้าดงแม่โจ้ พร้อมคนนำทางมุ่งหน้าต่อไปตามทางเกวียนใช้เวลาชั่วโมงกว่าถึงดงไม้และป่าโปร่งที่เรียกว่า “ดงแม่โจ้” มีพื้นที่ประมาณ 800  ไร่ มีหมู่บ้านเล็กๆอยู่ชายป่าประมาณ 10 หลังคาเรือน ถึงแม้ผืนดินแห่งนี้จะมีสภาพเป็นดินเลว แต่มีแหล่งน้ำเพียงพอที่สามารถปรับแก้ไขสภาพดินให้ดีขึ้นได้ ท่านจึงสร้างสถานีกสิกรรมภาคพายัพขึ้นบนผืนดินแห่งนี้

ต้นเดือนเมษายน 2477 เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี รมต.กระทรวงธรรมการ(สมัยนั้น) มีบัญชาให้จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือขึ้นที่  ดงแม่โจ้ ติดพื้นที่ด้านทิศใต้ของสถานีทดลองกสิกรรมภาคพายัพ แต่งตั้งให้ พระช่วงเกษตรศิลปการ ดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่

17 พฤษภาคม 2477 นักเรียนรุ่นแรกเดินทางมารายงานตัวครบทั้ง ๔๖ คน (ภายหลังมาอีก ๒ คน รวมเป็น ๔๘ คน)

7 มิถุนายน 2477  ได้เปิดการเรียนการสอนครั้งแรก  โดยคุณพระช่วงเกษตรศิลปการ บิดาเกษตรแม่โจ้   ผู้บุกเบิกและก่อตั้งแม่โจ้ พร้อมทั้งจัดให้มีพิธีไหว้ครูขึ้นในวันนี้ได้เชิญข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ข้าหลวงประจำจังหวัดและธรรมการจังหวัดมาร่วมให้โอวาท ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ถูกจารึกเป็นประวัติศาสตร์อันสำคัญของแม่โจ้ ถือเป็นจุดกำเนิดแม่โจ้และพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน

  88 ปี จากโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมภาคเหนือ  สู่...มหาวิทยาลัยแม่โจ้  มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มสถาบันอุดมศึกษากลุ่มที่ 2    มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม  ในวันนี้   แม่โจ้ได้บุกเบิก ฝ่าฟัน ต่อสู้ และ เจริญเติบโต สั่งสมประสบการณ์ บันทึกประวัติศาสตร์ด้านการเกษตรของไทย ยึดมั่นไว้ซึ่งอุดมการณ์ มุ่งสู่วิสัยทัศน์การ“เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ ที่มีความเป็นเลิศทางด้านการเกษตรในระดับนานาชาติ” ด้วยปรัชญา “มุ่งมั่นพัฒนาบัณฑิตสู่ความเป็นผู้อุดมด้วยปัญญา  อดทน  สู้งาน  เป็นผู้มีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อความเจริญรุ่งเรืองวัฒนาของสังคมไทยที่มีการเกษตรเป็นรากฐาน” และพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้สู่ปีที่ 100 (จาก 2477 - 2577)  และหากจะเอ่ยถึงบัณฑิตแม่โจ้ แม้กาลเวลาจะล่วงผ่านมาหลายยุคหลายสมัย บัณฑิตแม่โจ้ก็ยังคงมีอัตลักษณ์ที่โดดเด่น “เป็นนักปฏิบัติที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในสาขาวิชา” ด้วยบุคลิกของผู้ที่ “เลิศน้ำใจ  วินัยดี  เชิดชูประเพณี  สามัคคี อาวุโส” ซึ่งแสดงถึงความเป็นลูกแม่โจ้มาจวบจนปัจจุบัน โดยมีบทบัญญัติแม่โจ้เป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติ  ด้วยความเหนียวแน่น กลมเกลียว ชาวแม่โจ้ระลึกถึงคุณแผ่นดิน แม่โจ้จึงยืนหยัดมาจนถึงวันนี้ และพร้อมที่จะก้าวต่อไปด้วยความภาคภูมิ

   7 มิถุนายน 2565  แม่โจ้ครบ 88 ปี  มหาวิทยาลัยจัดให้มีพิธีทำบุญวันคล้ายสถาปนาโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม ภาคเหนือ ประจำปี 2565   โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 08.09 น. เป็นต้นไป มีพิธีบวงสรวงพระพิรุณทรงนาค นำโดยนายกสภามหาวิทยาลัย นายกสมาคมศิษย์เก่า อธิการบดีพร้อมคณะผู้บริหาร ณ อาคารช่วงเกษตรศิลป   เวลา 09.00 น. พิธีวางพวงมาลาคารวะอนุสาวรีย์คุณพระช่วงเกษตรศิลปการ “บิดาเกษตรแม่โจ้”  ผู้บุกเบิกก่อตั้งแม่โจ้ และได้รับเกียรติจาก ทายาทพระช่วงเกษตรศิลปการ มาร่วมในพิธี  เวลา 10.00 น. พิธีทำบุญทางศาสนา ณ อาคารแผ่พืชน์ และในเวลา 13.30 น. พิธีสมโภชหอระฆัง ณ หอบริเวณหอระฆังศาลเจ้าพ่อโจ้

      ชาวแม่โจ้พร้อมใจกันร่วมพิธีทำบุญวันคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม ภาคเหนือ ประจำปี 2565    มาร่วมกันแสดงพลังสามัคคี  ร่วมรำลึกถึงเส้นทางการก้าวย่างของแม่โจ้ สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีรากฐานด้านการเกษตรที่เก่าแก่ของไทย มหาวิทยาลัยมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม ที่จะสร้างคุณูปการต่อวงการศึกษาไทยให้ก้าวไกลต่อไปในอนาคต

“แม่โจ้: มหาวิทยาลัยแห่งชีวิต”

 

(ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ)

 

ปรับปรุงข้อมูล : 10/6/2565 12:55:05     ที่มา : ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 1206

กลุ่มข่าวสาร : ข่าวประชาสัมพันธ์ บทความน่าสนใจ

ข่าวล่าสุด

ม.แม่โจ้ - ชุมพร ปล่อยปลาคาร์ฟกว่าพันตัว เตรียมพัฒนาเป็นพ่อแม่พันธุ์สร้างมูลค่าเพิ่ม
 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ - ชุมพร ร่วมกับ คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ  มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และชมรมศิษย์เก่าแม่โจ้ชุมพร  ร่วมกิจกรรมปล่อยปลาคาร์ฟ จำนวน 1,500 ตัว  นำโดย  อาจารย์ ดร.ฐิระ ทองเหลือ คณบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพร  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จอมสุดา ดวงวงษา รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและกิจการพิเศษ  คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ พร้อมด้วย คณาจารย์ นักศึกษา และศิษย์เก่า เข้าร่วมกิจกรรม ณ บ่อน้ำ 35 ไร่ (บ่อเลี้ยงระบบปิด) ฟาร์มมหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพ ตำบลละแม อำเภอละแม จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา      โอกาสนี้ นางสาวเกศณีย์ แท่นนิล ประมงจังหวัดชุมพร เป็นผู้แทนมอบพันธุ์ปลาคาร์ฟ จำนวน 1,500 ตัว  ซึ่งได้รับการสนับสนุน จากนายสุชาติ จุลอดุง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร เพื่อใช้ในกิจกรรมครั้งนี้   โดยมหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพร ได้เตรียมพัฒนาพันธุ์ ปลาคาร์ฟดังกล่าวให้เป็นพ่อแม่พันธุ์ภายใต้การดูแลของนักวิชาการประมง  เพื่อใช้ในการเรียนการสอน ตลอดจนจำหน่ายพันธุ์ปลาต่อยอดเชิงธุรกิจ สร้างรายได้ให้มหาวิทยาลัยต่อไป
3 พฤษภาคม 2567     |      56
2 นศ.ชาวต่างประเทศ ม.แม่โจ้ คว้ารางวัล เสน่ห์เสียงไทย 2024 การประกวดอ่านออกเสียงร้อยแก้วสำหรับ นิสิตนักศึกษาชาวต่างประเทศ
นักศึกษาชาวต่างประเทศ หลักสูตรภาษาไทยสำหรับชาวต่างประเทศ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ คว้า 2 รางวัล ในโครงการ "เสน่ห์เสียงไทย : การประกวดอ่านออกเสียงร้อยแก้วสำหรับ นิสิตนักศึกษาชาวต่างประเทศ ประจำปี 2024" ผ่านระบบออนไลน์ Zoom meeting เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นโดย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับภาควิชาภาษาไทย วิทยาลัยภาษาต่างประเทศและวิเทศสัมพันธ์ฉงชิ่ง เพื่อให้นักศึกษาชาวต่างประเทศได้ ร่วมแสดงความสามารถและเรียนรู้เสน่ห์ของการอ่านออกเสียงภาษาไทย โดยมี นักศึกษาต่างชาติ จากสถาบันต่างๆ เข้าร่วมโครงการกว่า 40 มหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศ โดย 2 นักศึกษาชาวต่างประเทศ ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สามารถคว้ารางวัลมาได้ ดังนี้ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่  Mr. Sai Swan Kan (กานต์)  จากประเทศเมียนมา นักศึกษาชั้นปีที่ 1 จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ชมผลงาน   https://youtu.be/qatxED84ZN0- รางวัลรางวัลชมเชย ได้แก่ Sai Kwan Khay (กรณ์) จากประเทศเมียนมา นักศึกษาชั้นปีที่ 1 จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ชมผลงาน  https://youtu.be/TyC15rOXPO0ผศ.ดร. ชนาพร ขันธบุตร  คณบดีคณะศิลปศาสตร์ กล่าวว่า "คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีหลักสูตรภาษาไทยสำหรับชาวต่างประเทศ ที่เปิดสอนนักศึกษาต่างประเทศ ทั้งนี้ ได้มีการส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ  ให้นักศึกษาชาวต่างประเทศอยู่เสมอ เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะภาษาไทยทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน  ซึ่งกิจกรรมนี้ ชี้ให้เห็นว่า นักศึกษาชาวต่างประเทศของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สามารถเรียนรู้การใช้ภาษา สืบสานและเข้าใจวัฒนธรรมไทย ได้เป็นที่ประจักษ์ และใช้ชีวิตในประเทศไทยได้อย่างมีความสุข” ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน
1 พฤษภาคม 2567     |      115
นศ.วิศวะฯ ม.แม่โจ้ คว้า 2 รางวัล ระดับชาติ งาน FENETT 2024
นักศึกษาสาขาวิศวกรรมเกษตร คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้  คว้ารางวัลระดับชาติ ในการนำเสนอผลงานภาคบรรยาย งานประชุมวิชาการวิศวกรรมอาหารแห่งชาติ ครั้งที่ (The 10th National Food Engineering Conferentce, FENETT2024 ณ  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา เมื่อต้นเดือนเมษายน 2567 ซึ่งมีสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศส่งผลงานเข้าร่วมจำนวนมาก โดยมหาวิทยาลัยแม่โจ้สามารถคว้ารางวัลมาได้ 2  ผลงาน  ได้แก่รางวัลชนะเลิศภาคบรรยาย เรื่อง“การออกแบบและพัฒนาเครื่องคัดเมล็ดกาแฟพีเบอร์รี่” ผลงานวิจัยของนายอนุพงศ์ เขื่อนแก้ว และ นายอำนาจ ธนูไตร นักศึกษาสาขาวิศวกรรมเกษตร โดยมี รศ.ดร.จตุรภัทร วาฤทธิ์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา สำหรับเครื่องคัดเมล็ดกาแฟพีเบอร์รี่  จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เกษตรกร สามารถคัดเกรดเมล็ดกาแฟพีเบอร์รี่ ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟขนาดที่มีรสชาติกลมกล่อมกว่าปกติและปะปนมาในเมล็ดกาแฟธรรมดาโดยสามารถคัดแยกเกรดได้เร็วขึ้น 216% เมื่อเทียบกับใช้คนคัดแยก ช่วยเพิ่มรายได้จากการคัดเกรดกาแฟพีเบอร์รี่ได้มากกว่าเดิมถึง 6 เท่ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ภาคบรรยาย เรื่อง “การวิเคราะห์การไหลของอากาศแบบบังคับ ภายในตู้รมแก๊สโอโซนสำหรับลำไยสดผลเดี่ยว ด้วยเทคนิคพลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณ” ผลงานวิจัยของ นายอนุชา ประมวล และ นายมนัญชัย  บุญคง นักศึกษาสาขาวิศวกรรมเกษตร โดยมี รศ.ดร.จตุรภัทร วาฤทธิ์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งผลงานวิจัยนี้จะช่วยคำนวณการไหลของแก๊สโอโซนในตู้รมแก๊สฯ ให้ไหลผ่านผลลำไยบรรจุกล่องให้เหมาะสม  สัมผัสผลลำไยได้สม่ำเสมอ และปลอดเชื้อได้ทั่วถึง  ลำไยที่ผ่านการรมด้วยแก๊สโอโซน มีอายุการเก็บรักษานานขึ้น คงความสดได้ดี ชะลอการเกิดเชื้อราบนผลลำไยได้ถึง  18 วัน เหมาะสำหรับการเพิ่มมูลค่าลำไยผลเดี่ยวให้เป็นสินค้าพรีเมี่ยมปลอดสารพิษ เป็นทางเลือกเพื่อทดแทนการใช้สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์กับลำไยสดได้ด้าน รศ.ดร.จตุรภัทร วาฤทธิ์  อาจารย์ที่ปรึกษางานวิจัย กล่าวว่า  “นอกเหนือจากรางวัลที่นักศึกษาได้รับในครั้งนี้ คือ นักศึกษาได้มีประสบการณ์ในการนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดประโยชน์ได้จริง  เป็นแรงผลักสำคัญที่จะทำให้นักศึกษาได้ต่อยอดความคิด และพัฒนาผลงานออกมาเรื่อย ๆ  และสำหรับผลงาน 2 ชิ้นนี้ อยู่ในระหว่างการจดอนุสิทธิบัตรและวางแผนในการพัฒนาเชิงพาณิชย์เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัย ได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยทางคณะและมหาวิทยาลัยพร้อมที่จะสนับสนุนนักศึกษาให้ถึงที่สุด ” ฝ่ายสื่อสารองค์กร  ม.แม่โจ้  // รายงาน
25 เมษายน 2567     |      315
นศ.บริหารธุรกิจ ม.แม่โจ้ รับรางวัล “นำเสนอดี” งานประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 8 พัฒนาระบบตรวจนับครุภัณฑ์แบบคิวอาร์โค้ด ช่วยให้งานตรวจนับครุภัณฑ์เป็นเรื่องง่ายๆ
นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้รับรางวัล “นำเสนอดี” ภาคบรรยาย จากผลงาน การพัฒนาระบบตรวจนับครุภัณฑ์โดยใช้คิวอาร์โค้ด : กรณีศึกษาสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ  ในการประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 8  ซึ่งจัดขึ้นโดยคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯการพัฒนาระบบตรวจนับครุภัณฑ์โดยใช้คิวอาร์โค้ด :  กรณีศึกษาสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ” ผลงานของ นางสาวขวัญจิรา ชมภู และ นางสาวสวิณี มูลฟอง นักศึกษาสาขาระบบสารสนเทศทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉัตร ชูชื่น อาจารย์ประจำหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต  เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา  โดยระบบนี้เป็นการเก็บข้อมูลจากปัญหา (Pain Point) ที่เกิดขึ้นและความต้องการ (requirement) จากผู้ใช้งานจริงมาพัฒนาชิ้นงานจนได้ทำการพัฒนาเป็นระบบตรวจนับครุภัณฑ์ โดยใช้เทคโนโลยี  QrCode  ลดความยุ่งยากซับซ้อน ที่ช่วยในเรื่องของการตรวจนับได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องจดบันทึกลงเล่มครุภัณฑ์ มีความแม่นยำในการตรวจนับ มีการแสดงข้อมูลครุภัณฑ์ที่สแกนได้ทันที สามารถสแกนทำการตรวจนับได้ทุกที่ รวมถึงการเรียกดูข้อมูลที่ง่ายขึ้นและข้อมูลเป็นแบบเรียลไทม์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉัตร ชูชื่น อาจารย์ที่ปรึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า “การพัฒนาระบบตรวจนับครุภัณฑ์โดยใช้คิวอาร์โค้ด  กรณีศึกษาสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ  เป็นผลงานที่ให้นักศึกษาได้นำความรู้ที่เรียนมาต่อยอดจากงานที่พัฒนาในรายวิชาสหกิจศึกษาและรายวิชาโครงงานระบบสารสนเทศทางธุรกิจ โดยได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากปัญหา รวมถึงความต้องการ จากผู้ใช้งานจริงมาพัฒนาชิ้นงานดังกล่าวนี้ออกมา จนได้ทำการพัฒนาระบบที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในการทำงาน และยังสามารถเป็นต้นแบบในการพัฒนาระบบเพื่อปรับใช้กับงานอื่นๆ ได้อีกด้วย รางวัลในครั้งนี้จึงเป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้นักศึกษาได้พัฒนาผลงานอื่นๆ ต่อเนื่องไปได้อีกเรื่อย ๆ ช่วยให้นักศึกษาพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อีกทางหนึ่ง” ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน
21 มีนาคม 2567     |      529