ฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
MJU Corporate Communication Center
จากวันนั้นถึงวันนี้....แม่โจ้ครบ ๘๗ ปีที่ภาคภูมิ วันคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมภาคเหนือ
“ไม่มีพระช่วงฯ...ไม่มีแม่โจ้” หากย้อนเวลากลับไปเมื่อ ๘๗ ปี ก่อนจะเป็นมหาวิทยาลัยแม่โจ้ในปัจจุบัน๑๔ สิงหาคม ๒๔๗๖ คุณพระช่วงเกษตรศิลปการ บุกเข้าดงแม่โจ้ โดยรถยนต์กระบะบรรทุก ๖ ล้อของกรมตรวจกสิกรรมมาถึงที่ว่าการอำเภอสันทราย จากนั้นยืมม้าจากนายอำเภอ พร้อมคนนำทางเดินทาง มุ่งหน้าต่อไปตามทางเกวียนใช้เวลาชั่วโมงกว่าถึงดงไม้และป่าโปร่งที่เรียกว่า “ดงแม่โจ้” มีพื้นที่ประมาณ ๘๐๐ ไร่ มีหมู่บ้านเล็กๆอยู่ชายป่าประมาณ ๑๐ หลังคาเรือน ถึงแม้ผืนดินแห่งนี้จะมีสภาพเป็นดินเลว แต่มีแหล่งน้ำเพียงพอที่สามารถปรับแก้ไขสภาพดินให้ดีขึ้นได้ ท่านจึงสร้างสถานีกสิกรรมภาคพายัพขึ้นบนผืนดินแห่งนี้ต้นเดือนเมษายน ๒๔๗๗ เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี รมต.กระทรวงธรรมการ(สมัยนั้น) มีบัญชาให้จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือขึ้นที่  ดงแม่โจ้ ติดพื้นที่ด้านทิศใต้ของสถานีทดลองกสิกรรมภาคพายัพ แต่งตั้งให้ พระช่วงเกษตรศิลปการ ดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่๑๗ พฤษภาคม ๒๔๗๗ นักเรียนรุ่นแรกเดินทางมารายงานตัวครบทั้ง ๔๖ คน (ภายหลังมาอีก ๒ คน รวมเป็น ๔๘ คน)๗ มิถุนายน ๒๔๗๗  ได้เปิดการเรียนการสอนครั้งแรก  โดยคุณพระช่วงเกษตรศิลปการบิดาเกษตรแม่โจ้  ผู้บุกเบิกและก่อตั้งแม่โจ้ พร้อมทั้งจัดให้มีพิธีไหว้ครูขึ้นในวันนี้ได้เชิญข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ข้าหลวงประจำจังหวัดและธรรมการจังหวัดมาร่วมให้โอวาท ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ถูกจารึกเป็นประวัติศาสตร์อันสำคัญของแม่โจ้ ถือเป็นจุดกำเนิดแม่โจ้และพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน๘๗ ปี จากโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมภาคเหนือ  สู่...มหาวิทยาลัยแม่โจ้ในวันนี้  แม่โจ้ได้บุกเบิก ฝ่าฟัน ต่อสู้ และ เจริญเติบโต สั่งสมประสบการณ์ บันทึกประวัติศาสตร์ด้านการเกษตรของไทย ยึดมั่นไว้ซึ่งอุดมการณ์ มุ่งสู่วิสัยทัศน์การ“เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ ที่มีความเป็นเลิศทางด้านการเกษตรในระดับนานาชาติ” ด้วยปรัชญาที่แน่วแน่ “มุ่งมั่นพัฒนาบัณฑิต สู่ความเป็นผู้อุดมด้วยปัญญา  อดทนสู้งานเป็นผู้มีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อความเจริญรุ่งเรืองวัฒนาของสังคมไทยที่มีการเกษตรเป็นรากฐาน” พร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้สู่ปีที่ ๑๐๐ (จาก ๒๔๗๗ - ๒๕๗๗)  และหากจะเอ่ยถึงบัณฑิตแม่โจ้ แม้กาลเวลาจะล่วงผ่านมาหลายยุคหลายสมัย บัณฑิตแม่โจ้ก็ยังคงมีอัตลักษณ์ที่โดดเด่น “เป็นนักปฏิบัติที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในสาขาวิชา” ด้วยบุคลิกของผู้ที่ “เลิศน้ำใจ  วินัยดี  เชิดชูประเพณี  สามัคคี อาวุโส” ซึ่งแสดงถึงความเป็นลูกแม่โจ้มาจวบจนปัจจุบัน โดยมีบทบัญญัติแม่โจ้เป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติ  ด้วยความเหนียวแน่น กลมเกลียว ชาวแม่โจ้ระลึกถึงคุณแผ่นดิน แม่โจ้จึงยืนหยัดมาจนถึงวันนี้ และพร้อมที่จะก้าวต่อไปด้วยความภาคภูมิในปีนี้ ได้จัดให้มีพิธีทำบุญวันคล้ายสถาปนาโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม ภาคเหนือ ประจำปี ๒๕๖๔ แม่โจ้ครบ ๘๗ ปีในวันจันทร์ที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๔  แต่เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส COVID – ๑๙  มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีความห่วงใยต่อนักศึกษา บุคลากร และผู้มาร่วมพิธีทุกท่าน จึงได้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค กำหนดรูปแบบการจัดกิจกรรมตามมาตรการทางสาธารณสุข เว้นระยะห่างทางกายภาพ และเน้นสุขอนามัยของผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นสำคัญ โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา  ๐๘.๐๙ น. เป็นต้นไป จะมีพิธีบวงสรวงพระพิรุณทรงนาค นำโดยอธิการบดี นายกสมาคมศิษย์เก่า และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย  ต่อด้วยพิธีวางพวงมาลาคารวะอนุสาวรีย์คุณพระช่วงเกษตรศิลปการ โดยผู้แทนองค์กรหลัก และพิธีทำบุญทางศาสนา ณ อาคารแผ่พืชน์ จากนั้นผู้เข้าร่วมพิธีร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ (ต้นพิกุล) เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก จำนวน ๑๒ ต้น ณ ลานจอดรถ กาดแม่โจ้ ๒๔๗๗“แม่โจ้ มหาวิทยาลัยแห่งชีวิต”
4 มิถุนายน 2564     |      686
ม.แม่โจ้ ชวนแชร์ไอเดียลดโลกร้อน Show Me How to GO Green รับรางวัลถุงสุ่มรักษ์โลก
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดกิจกรรม  Show Me How to GO Green เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ร่วมขับเคลื่อน Green University  ในวันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน  2564 เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป พร้อมรับรางวัลถุงสุ่มรักษ์โลก ณ บริเวณชั้น 1 อาคารสำนักงานมหาวิทยาลัย  เนื่องด้วยวันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปีถือว่าเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก”เพื่อตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัว ทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ที่มีการเกื้อหนุนซึ่งกันละกัน เป็นวงจรและวัฏจักรที่เกี่ยวข้องกันทุกระบบ สร้างเข้าใจถึงผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อม  มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดย กองกายภาพและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ ฝ่ายสื่อสารองค์กร สำนักงานมหาวิทยาลัย จัดกิจกรรม  Show Me How to GO Green ให้นักศึกษา บุคลากร และประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแชร์ไอเดียลดโลกร้อน รับของรางวัลพิเศษ พร้อมสาธิตวิธีการทำปุ๋ยหมักในครัวเรือนให้ทุกคนสามารถร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมได้ด้วยตัวเองสำหรับนักศึกษา ศิษย์เก่า ประชาชนทั่วไป ร่วมแชร์ไอเดียผ่านทาง Facebook หรือ IG พร้อมติด Hashtag #ShowMeHowToGoGreen และติดตั้งเป็นสาธารณะ(Public) ลุ้นรับรางวัล ถุงสุ่มรักษ์โลก มูลค่ากว่า 500 บาท จำนวน 50 รางวัล พร้อมจัดส่งให้ถึงบ้านสำหรับบุคลากรเข้าร่วมกิจกรรมสาธิตวิธีการทำปุ๋ยหมักในครัวเรือน และร่วมแชร์ไอเดียลดโลกร้อนผ่าน Clip พร้อมรับรางวัลถุงสุ่มรักษ์โลก มูลค่ากว่า 500 บาท จำนวน 50 รางวัล ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณชั้น 1 อาคารสำนักงานมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ ดำเนินกิจกรรมภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัดขอเชิญท่านที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวได้ทั้ง 2 ช่องทาง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายสื่อสารองค์กร สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 0 5387 3016-8 ในวันและเวลาทำการ
2 มิถุนายน 2564     |      955
ม.แม่โจ้ จัด Big Cleaning Day MAEJO Green Heart Smart University รวมพลังฆ่าเชื้อโควิด-19 ให้แม่โจ้ทุกพื้นที่ปลอดภัย
มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดกิจกรรม “แม่โจ้พัฒนามหาวิทยาลัยสู่มหาวิทยาลัยสีเขียว” Big Cleaning Day MAEJO Green Heart Smart University ทุกพื้นที่ ร่วมสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย เตรียมรับเปิดเทอมหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในจังหวัดเชียงใหม่เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ผู้สัมผัสเชื้อมีจำนวนลดน้อยลง จนสามารถปิดโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา  ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับชุมชน  ผู้ปกครอง นักศึกษา และบุคลากร รวมถึงเตรียมความพร้อมสำหรับเปิดการเรียนการสอนในภาคการศึกษาที่ 1/2564  มหาวิทยาลัยได้เตรียมทำความสะอาดศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ และพื้นที่มหาวิทยาลัยเพื่อความปลอดภัยของทุกคน ดังนี้วันที่ 14 พฤษภาคม  2564 ทำการฉีดพ่นซิลเวอร์นาโนฆ่าเชื้อบริเวณอาคารใกล้เคียงโรงพยาบาลสนาม ได้แก่ ตึกจุฬาภรณ์, ตึกยรรยง สิทธิชัย, ตึกคณะสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อรองรับการเข้าปฏิบัติงานของบุคลากร โดย ทีมงานคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยีวันที่ 17,19 พฤษภาคม 2564 ทำการฉีดพ่นซิลเวอร์นาโนฆ่าเชื้อในศูนย์กีฬาฯ ห้องประชุม Zone A พื้นที่ 4,000 ตร.ม., Zone B/ใต้ตึกจุฬาภรณ์/ตึกคณะเศรษฐศาสตร์/ตึกคณะสารสนเทศฯ รวมพื้นที่ 6,000 ตร.ม. ด้วยโดรน โดย ผศ.ดร.โชติพงศ์ กาญจนประโชติ และทีมงานคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร วันที่ 18,20 พฤษภาคม 2564 ทำการฆ่าเชื้อในศูนย์กีฬาฯ Zone A ด้วยหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อระบบ UV โดย คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยแม่โจ้วันที่ 19 พฤษภาคม 2654 กิจกรรม Big Cleaning Day MAEJO Green Heart Smart University  พร้อมกันทุกพื้นที่ (รวมแม่โจ้-แพร่ฯ และ แม่โจ้ - ชุมพร) บุคลากรทุกคนร่วมกันทำความสะอาดจุดพื้นผิวสัมผัสบ่อย ด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อซิลเวอร์นาโน ในหน่วยงานที่สังกัดวันที 21 พฤษภาคม  2564 ทำความสะอาดฉีดพ่นซิลเวอร์นาโน บริเวณ Zone A อีกครั้ง โดยทีมงานฟาร์มมหาวิทยาลัย และทีมงานอำเภอสันทราย ขอเชิญทุกท่านร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day MAEJO Green Heart Smart University ในหน่วยงานของท่านโดยพร้อมเพรียงกัน ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2564เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล    ทองมา อธิการบดีเป็นประธาน พร้อมด้วยนายอำเภอสันทราย สาธารณสุขอำเภอ ทีมงาน รพ.สันทราย และ สภ.แม่โจ้ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดและปล่อยขบวนกิจกรรม ณ อาคารแผ่พืชน์ เพื่อแยกย้ายเข้าทำความสะอาด ทุกคณะ/ทุกสำนัก/ทุกส่วนงาน ให้ทุกพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ปลอดภัย พัฒนามหาวิทยาลัยสู่มหาวิทยาลัยสีเขียว ทั้งนี้ ดำเนินกิจกรรมภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอย่างเคร่งครัด
13 พฤษภาคม 2564     |      1472
ม.แม่โจ้ ประกาศนโนบาย NO GIFT POLICY ซื่อสัตย์ โปร่งใส ต่อต้านทุจริต
คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำโดย  รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล  ทองมา  อธิการบดี ประกาศนโยบาย ต่อต้านการให้สินบนเพื่อป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส เป็นธรรมและตรวจสอบได้ ด้วย 3 องค์ประกอบหลัก คือ ไม่รับ ไม่เรียกร้อง ไม่ละเลยไม่รับ ...บุคลากรของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ต้องไม่รับหรือให้ของขวัญ ของที่ระลึก สิ่งของ เงินสด ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการหรือเอกชนเพื่อแลกสิทธิพิเศษที่ไม่ควรได้อันเป็นการชักนำให้เกิดการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของตนไม่เรียกร้อง....บุคลากรของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ต้องไม่เรียกร้องให้จัดหาหรือรับสินบน เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือประโยชน์ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ หรือประโยชน์ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลในครอบครัวหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในลักษณะอื่นใดไม่ละเลยบุคลากรของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ต้องไม่ละเลยหรือเพิกเฉย เมื่อพบเห็นการกระทำหรือพฤติกรรมที่เข้าข่ายการทุจริตคอรัปชั่น ต้องแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาหรือบุคคลที่รับผิดชอบทราบ และให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อเท็จจริงมหาวิทยาลัยแม่โจ้  ซื่อสัตย์ โปร่งใส ต่อต้านทุจริต โดยสามารถร้องเรียนการทุจริตโดยตรงผ่านช่องทาง   สายตรงอธิการบดี หรือ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ที่หน้าเว็บไซต์มหาวิทยาลัยแม่โจ้ www.mju.ac.th
20 เมษายน 2564     |      884
สมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ เปิด “ตลาดกลางศิษย์เก่าแม่โจ้” เป็นสื่อกลางสนับสนุนกิจการศิษย์เก่าทั่วประเทศ
สมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ เปิด “ตลาดกลางศิษย์เก่าแม่โจ้” (Maejo Alumni Market Center) เพื่อเป็นสื่อกลางในการจัดจำหน่าย กระจายสินค้าบริการของศิษย์เก่าทั่วประเทศ พร้อมจัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564   ณ สมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้  จ.เชียงใหม่ดร.สมชาย  เขียวแดง  นายกสมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้  กล่าวว่า “ทางสมาคมฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญของศิษย์เก่าที่ได้กระจายทั่วอยู่ทุกภูมิภาค ประกอบอาชีพหลากหลาย มีกิจการต่างๆ มากมาย จึงได้มีโครงการ “ตลาดกลางศิษย์เก่าแม่โจ้” (Maejo Alumni Market Center) เพื่อช่วยเหลือศิษย์เก่าในการเป็นสื่อกลางประชาสัมพันธ์  จัดจำหน่าย กระจายสินค้า ผลิตภัณฑ์และบริการ สู่ผู้บริโภค อีกช่องทางหนึ่ง โดยจัดทำเป็น Facebook Fanpage “ตลาดกลางศิษย์เก่าแม่โจ้” สำหรับเป็นช่องทางในการสื่อสารผ่านโลกออนไลน์  อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมฐานข้อมูล ธุรกิจ กิจการ อาชีพของศิษย์เก่า ที่สามารถเป็นสื่อกลางในการสร้างกิจกรรมร่วมกันระหว่างสมาคมศิษย์เก่าและเครือข่ายศิษย์เก่าได้ต่อไปในอนาคต   และในวันที่ 9 เมษายน 2564 นี้ จะมีกิจกรรมเปิดตลาดอย่างเป็นทางการ มีการออกร้านจัดทำหน่ายสินค้าจากร้านค้าศิษย์เก่าที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมเปิดตลาดกลางศิษย์เก่าให้รับทราบโดยทั่วกัน”สำหรับร้านค้าที่จะมาร่วมออกร้านจำหน่ายสินค้าและประชาสัมพันธ์ในพิธีเปิดตลาดมีจำนวน กว่า 30 ร้านค้า มีทั้งร้านค้าประเภทการเกษตร กล้าพันธุ์พืชผัก ผลไม้ วัสดุเกษตร  ร้านค้าจำหน่ายสินค้าและบริการ เช่น ร้านจำหน่ายเครื่องหนัง ร้านเครื่องหนังจระเข้ ให้ทุกท่านได้มาช้อป  ธุรกิจร้านอาหาร เช่น ร้านอาหารทะเลไทย ร้านแกงป่าบ้านนายก ร้านยำแม่ปิง ยำสะเด็ด 7 ย่านน้ำ ร้านชบามหาสมุทร ที่จะมาเปิดเมนูพิเศษในงานนี้ ให้ทุกท่านได้มาชิม  พร้อมชมการแสดงบินโชว์ โดยเครื่องบินเล็ก ของบริษัทเชียงใหม่แอร์สปอตขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมงานเปิดตลาดกลางศิษย์เก่าแม่โจ้ ในวันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564 เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป ณ สมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 5335 3140  
8 เมษายน 2564     |      684
ขอเชิญชาวแม่โจ้ ร่วมพิธีดำหัวผู้อาวุโสและอธิการบดี สืบสานป๋าเวณี ปี๋ใหม่เมือง ประจำปี 2564
มหาวิทยาลัยแม่โจ้  จัดพิธีดำหัวผู้อาวุโส และอธิการบดี ประจำปี 2564  ร่วมสืบสานประเพณี ปีใหม่เมือง  ในวันศุกร์ที่ 9 เมษายน  2564  ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป ณ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมการเกษตรไทย  มหาวิทยาลัยแม่โจ้พิธีดำหัวอธิการบดีและผู้อาวุโสของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้จัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมอบหมายให้ กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินกิจกรรม  เพื่อเป็นการร่วมขอขมา  คารวะผู้อาวุโส และเป็นการสืบสานประเพณีปีใหม่เมืองของชาวล้านนา หรือประเพณีปีใหม่ไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยได้รับเกียรติจาก ดร.อำนวย  ยศสุข นายกสภามหาวิทยาลัย เป็นประธานอวยพรปีใหม่, รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นผู้แทนกล่าวขอขมาและขอพร จากนั้นคณะผู้บริหาร นายกสมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ และผู้แทน ร่วมประเคนของดำหัวผู้อาวุโสพร้อมกัน ทั้งนี้ มีกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ อาจารย์อาวุโส และศิษย์เก่าอาวุโส  ให้เกียรติเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 09.09 น. อธิการบดีพร้อมด้วยผู้บริหาร กรรมการบริหารสมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ จะร่วมพิธีสักการะสรงน้ำดำหัวเจ้าแม่โจ้-เจ้าพ่อโจ้  จากนั้น เวลา 09.30 น. เริ่มลงทะเบียนผู้เข้าร่วมงาน ณ ประตูวิเวก (จุดที่ 1) และจะเริ่มขบวนแห่เวลา 10.00 น. นำขบวนโดยอธิการบดี คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ตามด้วยขบวนของแต่ละคณะ/สำนัก โดยขบวนจะเริ่มจากประตูวิเวก ไปตามถนนด้านหลังมหาวิทยาลัย เคลื่อนไป ณ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมการเกษตรไทย  มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อประกอบพิธีดำหัวต่อไปขอเชิญชวนชาวแม่โจ้ ทั้งบุคลากร คณาจารย์ ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน ในวันศุกร์ที่ 9 เมษายน  2564  ตั้งแต่เวลา 09.30 น.เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองส่งเสริมศิปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทร. 0 5387 3302
5 เมษายน 2564     |      813
รมว.กระทรวงการอุดมศึกษาฯ เยี่ยมชมกิจการมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมปาฐกถาพิเศษ “นโยบายของ อว.สู่ทิศทางของมหาวิทยาลัยในการพลิกโฉมระบบอุดมศึกษา และการพัฒนาเกษตรไทย”
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก  เหล่าธรรมทัศน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มาปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “นโยบายของ อว. สู่ทิศทางของมหาวิทยาลัย ในการพลิกโฉมระบบอุดมศึกษา และการพัฒนาเกษตรไทย” ให้กับบุคลากรมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมทั้งชมผลงานวิจัยและนวัตกรรมเด่นของมหาวิทยาลัย  เข้าเยี่ยมชมแปลงสาธิตเกษตรทฤษฎีใหม่ แปลงปลูกกัญชาอินทรีย์ และร่วมชิมเมนูพิเศษเพื่อสุขภาพจากกัญชา ในวันจันทร์ที่ 29 มีนาคม 2564 ณ  มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่  พร้อมถ่ายทอดสดทาง Facebook Fanpage มหาวิทยาลัยแม่โจ้ขอเชิญท่านที่สนใจเข้าร่วมรับฟังการปาฐกถาพิเศษ จาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในวันจันทร์ที่ 29 มีนาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 09.30 – 10.30 น. ณ ห้องประชุม 101 ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมนานาชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้  โดยสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมรับฟังได้ที่ เว็บไซต์กองกลาง  สำนักงานมหาวิทยาลัย  https://general.mju.ac.th/wtms_registerDetail.aspx?tID=347 หรือ ร่วมรับชมออนไลน์ได้ทาง  https://www.facebook.com/MaejoUniversityสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองกลาง สำนักงานมหาวิทยาลัย โทร. 0 5387 3036-7
24 มีนาคม 2564     |      2158
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ร่วมเป็นสมาชิก UC. (University Consortium Contract) เผยแพร่ศาสตร์เกษตรในระดับนานาชาติ
University Consortium Contract  หรือ UC เป็นเครือข่ายของสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการแบ่งปันความรู้และความเชี่ยวชาญทางวิชาการทางด้านการเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติซึ่งมีมหาลัยชั้นนำที่เป็นสมาชิก  UC  หลายมหาวิทยาลัย  เช่น  Tokyo University Of Agricultural, National Taiwan  Universityมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีรากฐานทางการเกษตรที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย  ได้เปิดการเรียนสอนครั้งแรกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2477 ปัจจุบันมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 87 ด้วยวิสัยทัศน์เป็น “มหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีความเป็นเลิศทางการเกษตรในระดับนานาชาติ” ได้ผลิตบัณฑิตออกไปรับใช้สังคมและประเทศชาติเป็นจำนวนมากการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ  UC.  มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรการเรียนการสอนด้านการเกษตร ซึ่งถือเป็นศาสตร์สำคัญที่เป็นหัวใจหลักของมหาวิทยาลัย ให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติกว้างขึ้น  ปัจจุบันมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีการจัดการเรียนการสอน 13 คณะ 3 วิทยาลัย ในทั้งหลักสูตรปกติและหลักสูตรนานาชาติ  โดยมีหลักสูตรการเรียนการสอนทางด้านการเกษตร กว่า 50 หลักสูตร  และยังมีหลักสูตรการฝึกอบรม หลักสูตร NON-Degree  หลักสูตรระยะสั้นในโครงการต่างๆ อีกหลายหลักสูตร   การเป็นร่วมเป็นสมาชิก UC. นั้น นอกจากจะเป็นการประชาสัมพันธ์หลักสูตรของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ให้กับผู้ที่สนใจ ได้เข้ามาเรียนรู้ และศึกษาต่อแล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับอาจารย์ และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยในการหาข้อมูล และแหล่งทุนการศึกษาในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเครือข่าย เพื่อเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระดับนานาชาติได้อีกด้วย
22 มีนาคม 2564     |      703
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ขอเชิญร่วมบริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์
งานอนามัยและพยาบาล กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกับ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์บริการโลหิต โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่  เปิดบริการรับบริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ในวันพุธที่ 10 และ วันพุธที่ 17  กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.00 -14.30 น.  ณ ลานอนันต์ ปัญญาวีร์ อาคารอำนวย ยศสุข มหาวิทยาลัยแม่โจ้นางนิธิวดี จรรยาสุภาพ รักษาการในตำแหน่งหัวหน้างานอนามัยและพยาบาล มหาวิทยาลัยแม่โจ้ แจ้งว่า “ตามที่ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ซึ่งกำลังประสบภาวะขาดแคลนโลหิต ได้ขอความร่วมมือมายังมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อจัดหาโลหิตที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยสูง สำหรับช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ที่เจ็บป่วย และมีความจำเป็นต้องใช้โลหิตในการรักษาพยาบาล   โดยงานอนามัยและพยาบาล กองพัฒนานักศึกษา เป็นผู้ดำเนินการประสานงานและอำนวยความสะดวก จึงขอเชิญชวนผู้ที่มีสุขภาพดี อายุ 17-60 ปี มีน้ำหนัก 50 กิโลกรัมขึ้นไป ไม่เป็นโรคหรือพาหะของไวรัสตับอักเสบ ไม่เป็นโรคหัวใจ โรคตับ โรคปอด โรคเลือด โรคมะเร็ง ไม่มีประวัติผ่าตัดใหญ่  มาร่วมกิจกรรมจิตอาสาด้วยการบริจาคโลหิต เพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์กันค่ะ”สำหรับการเตรียมตัวชองผู้ที่จะมาบริจาคโลหิต คือ พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง  งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนบริจาคโลหิต  งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนบริจาคโลหิต รับประทานอาหารก่อนการบริจาคโลหิตและงดอาหารที่มีไขมันสูง  ดื่มน้ำ 3-4 แก้วก่อนการบริจาคโลหิตอย่างน้อย 30 นาที ไม่รับประทานยาแก้อักเสบหรือยาคลายกล้ามเนื้อในระยะ 3 วันก่อนการบริจาคโลหิตขอเชิญนักศึกษา บุคลากร และผู้สนใจร่วมกิจกรรมจิตอาสาด้วยการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ในวันพุธที่ 10 และ วันพุธที่ 17  กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.00 -14.30 น.  ณ ลานอนันต์ ปัญญาวีร์ อาคารอำนวย     ยศสุข มหาวิทยาลัยแม่โจ้ (สำหรับนักศึกษาที่ร่วมบริจาคโลหิตจะได้รับชั่วโมงกิจกรรมด้านจิตอาสา ครั้งละ 6  ชั่วโมง)สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานอนามัยและพยาบาล กองพัฒนานักศึกษา  โทร. 0 5387 3074-75
4 กุมภาพันธ์ 2564     |      554
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ขอเชิญร่วมบริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์
งานอนามัยและพยาบาล กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกับ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์บริการโลหิต โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่  เปิดบริการรับบริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ในวันพุธที่ 10 และ วันพุธที่ 17  กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.00 -14.30 น.  ณ ลานอนันต์ ปัญญาวีร์ อาคารอำนวย ยศสุข มหาวิทยาลัยแม่โจ้นางนิธิวดี จรรยาสุภาพ รักษาการในตำแหน่งหัวหน้างานอนามัยและพยาบาล มหาวิทยาลัยแม่โจ้ แจ้งว่า “ตามที่ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ซึ่งกำลังประสบภาวะขาดแคลนโลหิต ได้ขอความร่วมมือมายังมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อจัดหาโลหิตที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยสูง สำหรับช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ที่เจ็บป่วย และมีความจำเป็นต้องใช้โลหิตในการรักษาพยาบาล   โดยงานอนามัยและพยาบาล กองพัฒนานักศึกษา เป็นผู้ดำเนินการประสานงานและอำนวยความสะดวก จึงขอเชิญชวนผู้ที่มีสุขภาพดี อายุ 17-60 ปี มีน้ำหนัก 50 กิโลกรัมขึ้นไป ไม่เป็นโรคหรือพาหะของไวรัสตับอักเสบ ไม่เป็นโรคหัวใจ โรคตับ โรคปอด โรคเลือด โรคมะเร็ง ไม่มีประวัติผ่าตัดใหญ่  มาร่วมกิจกรรมจิตอาสาด้วยการบริจาคโลหิต เพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์กันค่ะ”สำหรับการเตรียมตัวชองผู้ที่จะมาบริจาคโลหิต คือ พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง  งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนบริจาคโลหิต  งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนบริจาคโลหิต รับประทานอาหารก่อนการบริจาคโลหิตและงดอาหารที่มีไขมันสูง  ดื่มน้ำ 3-4 แก้วก่อนการบริจาคโลหิตอย่างน้อย 30 นาที ไม่รับประทานยาแก้อักเสบหรือยาคลายกล้ามเนื้อในระยะ 3 วันก่อนการบริจาคโลหิตขอเชิญนักศึกษา บุคลากร และผู้สนใจร่วมกิจกรรมจิตอาสาด้วยการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ในวันพุธที่ 10 และ วันพุธที่ 17  กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.00 -14.30 น.  ณ ลานอนันต์ ปัญญาวีร์ อาคารอำนวย     ยศสุข มหาวิทยาลัยแม่โจ้ (สำหรับนักศึกษาที่ร่วมบริจาคโลหิตจะได้รับชั่วโมงกิจกรรมด้านจิตอาสา ครั้งละ 6  ชั่วโมง)สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานอนามัยและพยาบาล กองพัฒนานักศึกษา  โทร. 0 5387 3074-75
4 กุมภาพันธ์ 2564     |      837
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ขอเชิญร่วมบริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์
งานอนามัยและพยาบาล กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกับ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์บริการโลหิต โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่  เปิดบริการรับบริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ในวันพุธที่ 10 และ วันพุธที่ 17  กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.00 -14.30 น.  ณ ลานอนันต์ ปัญญาวีร์ อาคารอำนวย ยศสุข มหาวิทยาลัยแม่โจ้นางนิธิวดี จรรยาสุภาพ รักษาการในตำแหน่งหัวหน้างานอนามัยและพยาบาล มหาวิทยาลัยแม่โจ้ แจ้งว่า “ตามที่ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ซึ่งกำลังประสบภาวะขาดแคลนโลหิต ได้ขอความร่วมมือมายังมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อจัดหาโลหิตที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยสูง สำหรับช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ที่เจ็บป่วย และมีความจำเป็นต้องใช้โลหิตในการรักษาพยาบาล   โดยงานอนามัยและพยาบาล กองพัฒนานักศึกษา เป็นผู้ดำเนินการประสานงานและอำนวยความสะดวก จึงขอเชิญชวนผู้ที่มีสุขภาพดี อายุ 17-60 ปี มีน้ำหนัก 50 กิโลกรัมขึ้นไป ไม่เป็นโรคหรือพาหะของไวรัสตับอักเสบ ไม่เป็นโรคหัวใจ โรคตับ โรคปอด โรคเลือด โรคมะเร็ง ไม่มีประวัติผ่าตัดใหญ่  มาร่วมกิจกรรมจิตอาสาด้วยการบริจาคโลหิต เพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์กันค่ะ”สำหรับการเตรียมตัวชองผู้ที่จะมาบริจาคโลหิต คือ พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง  งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนบริจาคโลหิต  งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนบริจาคโลหิต รับประทานอาหารก่อนการบริจาคโลหิตและงดอาหารที่มีไขมันสูง  ดื่มน้ำ 3-4 แก้วก่อนการบริจาคโลหิตอย่างน้อย 30 นาที ไม่รับประทานยาแก้อักเสบหรือยาคลายกล้ามเนื้อในระยะ 3 วันก่อนการบริจาคโลหิตขอเชิญนักศึกษา บุคลากร และผู้สนใจร่วมกิจกรรมจิตอาสาด้วยการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ในวันพุธที่ 10 และ วันพุธที่ 17  กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.00 -14.30 น.  ณ ลานอนันต์ ปัญญาวีร์ อาคารอำนวย     ยศสุข มหาวิทยาลัยแม่โจ้ (สำหรับนักศึกษาที่ร่วมบริจาคโลหิตจะได้รับชั่วโมงกิจกรรมด้านจิตอาสา ครั้งละ 6  ชั่วโมง)สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานอนามัยและพยาบาล กองพัฒนานักศึกษา  โทร. 0 5387 3074-75
4 กุมภาพันธ์ 2564     |      683
ผลงานวิจัยอาจารย์ ม.แม่โจ้ เจ๋ง “ผลิตไฟฟ้าจากการกำจัดขยะติดเชื้อทางการแพทย์” สร้างพลังงานทดแทน ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม
"ระบบการผลิตไฟฟ้าร่วมกับความร้อนจากขยะติดเชื้อทางการแพทย์" ต้นแบบนวัตกรรมสัญชาติไทยเครื่องแรก ที่ใช้เทคนิคการผลิตไฟฟ้าและความร้อนร่วมกับการกำจัดขยะติดเชื้อทางการแพทย์ระบบแรกของประเทศไทย ผลงานวิจัยของ รองศาสตราจารย์ ดร.นัฐพร ไชยญาติ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชวโรจน์ ใจสิน อาจารย์ประจำวิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้และทีมงาน ได้รับรางวัลระดับดี สาขาวิศวกรรมศาสตร์ ในการพิจารณารางวัลการวิจัยแห่งชาติ : รางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ รางวัลผลงานวิจัย รางวัลวิทยานิพนธ์ และรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) รองศาสตราจารย์ ดร.นัฐพร ไชยญาติ หัวหน้าทีมนักวิจัย กล่าวว่า “ผลงานวิจัยชิ้นนี้เกิดจากความต้องการแก้ปัญหาปริมาณขยะติดเชื้อทางการแพทย์ที่มีปริมาณมากในปัจจุบัน โดยไม่ทำให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และสามารถลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะติดเชื้อทางการแพทย์ อีกทั้งยังสอดรับกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกของกระทรวงพลังงานได้อีกด้วย ซึ่งได้ทำการศึกษาวิจัยมาประมาณ 5 ปี โดยได้มีการลงนามความความร่วมมือกับบริษัทเอกชน จำนวน 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท นำวิวัฒน์การช่าง (1992) จำกัด , บริษัท ทานิตะ แฟบริเคชั่น จำกัด และ บริษัท 89 อินเวนชั่น แอนด์ ไอเดีย จำกัด ในการสนับสนุนทุนวิจัยและส่วนอื่น ๆ ที่ เกี่ยวข้องกับการศึกษาวิจัยระบบการผลิตไฟฟ้าร่วมกับความร้อนจากขยะติดเชื้อทางการแพทย์ เครื่องนี้เป็นเครื่องต้นแบบขนาดเล็ก มีอัตราการเผาไหม้เชื้อเพลิงขยะติดเชื้อประมาณ 250 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ด้วยการนำขยะติดเชื้อทางการแพทย์ที่ผ่านการบำบัดด้วยเทคนิคบด ย่อย และฆ่าเชื้อด้วยความร้อน มาใช้เป็นเชื้อเพลิงและถ่ายเทความร้อนจากกระบวนการเผาไหม้ให้แก่น้ำสะอาด ซึ่งนวัตกรรมการถ่ายเทความร้อนภายในห้องเผาไหม้โดยตรงให้แก่ของไหลสะอาด ถือได้ว่าเป็นต้นแบบเตาเผาขยะเครื่องแรกของประเทศไทยอีกด้วย จากนั้นนำความร้อนที่ได้จ่ายให้แก่วัฏจักรแรงคินสารอินทรีย์เพื่อผลิตไฟฟ้า และทำให้ได้พลังงานไฟฟ้าสุทธิประมาณ 20 กิโลวัตต์ชั่วโมง หรือ 20 หน่วยไฟฟ้า และจากการวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ พบว่า การกำจัดขยะติดเชื้อ 1 กิโลกรัม มีต้นทุนโดยเฉลี่ยตลอดโครงการเพียง 3.185 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมต้องจ้างขนขยะติดเชื้อทางการแพทย์ไปกำจัดกิโลกรัมละประมาณ 10-15 บาท ขึ้นกับระยะทางของโรงพยาบาล รวมทั้งมีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าโดยเฉลี่ยตลอดโครงการ 3.302 บาทต่อหน่วย ที่สำคัญสามารถควบคุมผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามมาตรฐานควบคุมของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” ผลงานวิจัยชิ้นนี้ ยังเคยได้รับรางวัลระดับดีมาก การประกวดข้อเสนอโครงการผลงานนวัตกรรม และรางวัลเหรียญทองการประกวดผลงานนวัตกรรม ประเภทผลงานนวัตกรรมสายอุดมศึกษา ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อุปกรณ์อัจฉริยะ พลังงานและสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2563 ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563 เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา  รวมทั้งได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมประกวดและจัดแสดงนิทรรศการ Thailand New Gen Inventors Award 2021 (I-New Gen Award 2021) ในงาน "วันนักประดิษฐ์" ประจำปี 2564 ในชื่อผลงานสิ่งประดิษฐ์ ระบบผลิตไฟฟ้าวัฏจักรแรงคินสารอินทรีย์จากพลังงานทดแทนแบบผสมผสานของขยะชุมชนและพลังงานแสงอาทิตย์ในระหว่างวันที่ 26-30 พฤษภาคม 2564 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯทั้งนี้ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ จะจัดงานมอบรางวัลการวิจัยแห่งชาติ : รางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ รางวัลผลงานวิจัย รางวัลวิทยานิพนธ์ และรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ประจำปีงบประมาณ 2564 ในงาน "วันนักประดิษฐ์" ประจำปี 2564 เพื่อมอบรางวัลอย่างเป็นทางการให้กับผู้ได้รับรางวัลประเภทต่าง ๆ ต่อไปปัจจุบัน “ระบบต้นแบบการผลิตไฟฟ้าร่วมกับความร้อนจากขยะติดเชื้อทางการแพทย์” ได้รับการขยายผลต่อยอดเชิงพาณิชย์และใช้งานจริงในโรงพยาบาลและหน่วยงานของรัฐหลายแห่ง  และได้พัฒนาต่อยอดเพื่อใช้กับขยะทั่วไปอีกด้วย ผลงานวิจัยชิ้นนี้จึงเป็นอีกทางเลือกในการช่วยแก้ปัญหาการกำจัดขยะซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขยะติดเชื้อจากหน้ากากอนามัยใช้แล้วแล้วทิ้งที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนต้องใช้ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19  พร้อมทั้งยังสร้างพลังงานทดแทนและช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
1 กุมภาพันธ์ 2564     |      1698
ทั้งหมด 26 หน้า